ไข้หูดับอีสานใต้ป่วยแล้ว 109 คน อยู่ในโคราช 55 คน ตาย 4 คน

ไข้หูดับอีสานใต้ป่วยแล้ว 109 คน อยู่ในโคราช 55 คน ตาย 4 คน

View icon 455
วันที่ 5 ต.ค. 2566 | 16.48 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ไข้หูดับ เขตสุขภาพที่ 9 ป่วยแล้ว 109 คน อยู่ในโคราช 55 คน ตาย 4 คน เตือนไม่กินลาบเลือดดิบๆ อาหารปิ้งย่างไม่ควรใช้ตะเกียบคีบหมูแล้วคีบเข้าปาก

ไข้หูดับ วันนี้ (5 ต.ค.66) นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคไข้หูดับว่า เกิดจากการกินเนื้อหมู หรือเลือดหมูสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ที่มีเชื้อสเตปโตค็อกคัสซูอิส (Streptococcus suis) ปนเปื้อนอยู่ โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่ติดเชื้อ อีกทั้งมีกระแสสังคมบนสื่อออนไลน์ได้รีวิวการรับประทานอาหารดิบ และมีพฤติกรรมการดื่มสุราร่วมกับการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบๆ มีผู้ติดตามรับชมจำนวนมาก อาจทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หรืออยากลองทำตาม ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคข้หูดับได้

นอกจากนี้โรคไข้หูดับสามารถติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา เมื่อได้รับเชื้อโรคข้หูดับเข้าไปแล้ว ทำให้ผู้ติดเชื้อ มีไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศาเชลเซียส) ปวดศีรษะ หนาวสั่น สับสนกระสับกระส่าย ปวดข้อ คอแข็ง หูหนวกหรือการได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน การทรงตัวผิดปกติ หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันเสือดต่ำ มีจ้ำเลือดทั่วตัว ปวดตา ตาแดง หรือมองภาพไม่ชัด

สำหรับสถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 25 ก.ย.66 มีผู้ป่วยโรคไข้หูดับ 436 คน มีผู้เสียชีวิต 19 คน ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 ก.ย.66 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับ จำนวน 109 คน มีผู้เสียชีวิต 5 คน (นครราชสีมา 4 คน ชัยภูมิ 1 คน) ส่วนสถานการณ์ผู้ป่วยแยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ นครราชสีมา มีผู้ป่วย 55 คน สุรินทร์ มีผู้ป่วย 11 คน ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 10 คน บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 3 คน อาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ เกษตรกร ร้อยละ 32.11 รองลงมา คือ รับจ้าง ร้อยละ 31.19 และทำงานบ้าน ร้อยละ 12.84 ตามลำดับ

การป้องกันโรคไข้หูดับ ขอให้ประชาชนรับประทานหมูอย่างถูกวิธี ดังนี้
1.รับประทานเนื้อหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น โดยปรุงให้สุกผ่านความร้อนมากกว่า 70 องศาเซลเซียส
2.อาหารปิ้งย่าง ควรใช้อุปกรณ์ในการคีบเนื้อหมูดิบและเนื้อหมูสุกแยกจากกัน และขอให้ยืดหลัก "สุก ร้อน สะอาด"
3. ไม่ควรรับประทานหมูดิบร่วมกับการดื่มสุรา
4. เลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ ไม่ควรซื้อจากแหล่งที่ไม่ทราบที่มาของหมู
5. ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบูตยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง