บริการด้านสภาพอากาศของสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า อุณหภูมิโลกในเดือนกันยายนพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเดือนที่แล้วอุณหภูมิโลกสูงกว่าอุณหภูมิในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมประมาณ 1.75 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกขณะนี้ในปีนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ย 0.52 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ปีนี้กำลังจะกลายเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สภาพอากาศแบบเอลนีโญ เมื่อรวมกับการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากมนุษย์ก็ส่งผลให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่าพวกเขารู้สึกตกใจกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นถึงระดับนี้
ซึ่งก่อนหน้านี้ ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ตกลงกันในความตกลงปารีสว่าจะพยายามรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในศตวรรษนี้ให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม และพยายามรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิในเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็ได้ทำลายสถิติไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเพิ่มอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในปีนี้จะยังคงต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส และระดับความร้อนนี้จะสร้างแรงกดดันให้นักการเมือลงมือแก้ปัญหาเกี่ยวกับสภาพอากาศอย่างจริงจัง ก่อนการประชุม COP28 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
