ชาวบ้านรายหนึ่งทำรั้วลวดไฟฟ้าป้องกันช้างป่าเข้าทำลายสวนทุเรียน ช้างป่าจึงถูกไฟช็อต ล้มคู่
วันนี้ (12 ต.ค.66) สัตวแพทย์พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 พนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ และฝ่ายปกครอง เจ้าตรวจสอบในพื้นที่ บ้านกงตอ หมู่ 9 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หลังรับแจ้งพบช้างป่าล้มอยู่บนถนน ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
ที่เกิดแหตุพบช้างป่า 2 ตัว ล้มขวางถนน ตัวแรกเป็นช้างเพศเมียอายุประมาณ 35-40 ปี น้ำหนักประมาณ 3.5 ตัน พบมีเส้นลวดพันติดอยู่ที่งวงมีรอยไฟฟ้าช็อตไหม้ ตัวที่สองเป็นช้างเพศผู้ อายุประมาณ 25 ปี น้ำหนักประมาณ 2.5 ตัน ที่งวงช้างมีเส้นลวดติดอยู่เหมือนกับตัวแรก คาดว่าทั้ง 2 ตัว จะเป็นเพื่อนกันเพราะช่วงอายุไม่ต่างกันมาก เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบลวดที่งวงช้าง พบมีการดึงลวดเป็นแนวยาวมาตามริมถนน และพบว่าได้มีการต่อสายไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์มาจากบ้านของชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุและเป็นเจ้าของสวนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินในเขตอุทยานฯ จึงนำตัวนายจรูญ อายุ 43 ปี ลูกชายของเจ้าของบ้านดังกล่าวมาสอบสวน
นายจรูญ ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำแนวรั้วไฟฟ้าไว้นานแล้ว แต่จะไม่ค่อยเปิดใช้ และเป็นคนต่อสายไฟฟ้าเป็นแนวรั้วเพื่อป้องกันช้างป่าไม่ให้เข้ามาทำลายสวนทุเรียนของตนเอง เนื่องจากช่วงต้นอาทิตย์ได้มีโขลงช้างป่าจำนวน 4 ตัว ลงมาจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นเข้ามาใกล้กับพื้นที่สวนของตนเอง และเพิ่งเปิดกระแสไฟฟ้าเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่าน และช่วงเวลา ประมาณ 23.00 น.วันเดียวกัน ก็ได้ยินเสียงช้างร้องดังมาก แต่ก็ไม่กล้าลงจากบ้านมาดู จนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 12 ต.ค. ออกมาตัดยางก็พบช้างป่าทั้ง 2 ตัว ล้มที่บริเวณดังกล่าว จึงได้รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านรับทราบและประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ด้านนายพรชัย สิทธิเกษร รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่สร้างสมดุลให้ป่า จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของที่ดินดังกล่าวที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากอุทยานฯเพื่อเพื่อประอาชีพการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้จะได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และ พ.ร.บ.สัตว์ป่า ทั้งนี้ขอฝากถึงชาวบ้านเมื่อพบเห็นช้างก็อย่าทำร้ายและเร่งแจ้งเจ้าเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและพลักดันให้คืนสู้ป่าต่อไป
