ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กรณีนี้ถือว่าอำมหิตมาก เพราะว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินจนหมดบัญชี เกือบ 3 ล้านบาท ยายถึงกับเสียใจ เขียนจดหมายลาตาย "คำสั่งสุดท้ายของแม่" แต่ว่าลูก ๆ มาเห็นก่อน
คุณยายซ่อนกลิ่น อายุ 82 ปี ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ และเจ็บใจ ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน จนสูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิตไปเกือบ 3 ล้านบาท
คุณยายซ่อนกลิ่น กับสามีวัย 83 ปี เป็นข้าราชการเกษียณทั้ง 2 คน อาศัยอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพมหานคร ย่านคลองเตย แต่ว่าสามีคุณยายป่วยติดเตียง จึงมีลูกจ้าง 2 คน ทำหน้าที่ดูแลสามี และงานบ้านต่าง ๆ โดยคุณยายจะเป็นคนถือสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม และคอยเบิกเงินมาจ่ายคนที่จ้างไว้ดูแลสามี เล่มแรกธนาคารออมสิน มีเงินเก็บ 2,585,153.31 บาท ส่วนเล่มที่ 2 ธนาคารกรุงไทย เอาไว้รับโอนเงินบำนาญ
คุณยายซ่อนกลิ่น เล่าว่า วันเกิดเหตุ 8 กันยายน 2566 ช่วงเวลาใกล้เที่ยง มีคนโทรศัพท์มาอ้างเป็นไปรษณีย์ที่ภูเก็ต บอกมีพัสดุส่งถึงยาย เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ให้ยายไปแจ้งความตำรวจที่ภูเก็ต ยายบอกว่า ไปไม่ได้ ยายแก่แล้ว ปลายสายก็ให้คุยกับคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการ จากนั้นก็สอนให้ยายแอดไลน์ และดึงเข้ากลุ่มที่ตั้งชื่อว่า "หน่วยงาน ปปง." พร้อมกับบอกยายว่าต้องตรวบสอบทรัพย์สินยายทั้งหมดที่มี รวมทั้งเงินในบัญชีธนาคาร โดยให้โอนไปที่บัญชีกลางของ ปปง.
แต่ว่า คุณยายซ่อนกลิ่น ไม่มีแอปฯ ธนาคารในโทรศัพท์ คนร้ายก็แนะนำให้ไปเปิดแอปฯ ที่ธนาคาร โดยให้ไปบอกกับธนาคารว่า ยายอายุมากแล้ว ไม่สะดวกเดินทางมาธนาคารบ่อย ๆ จึงขอเปิดแอปฯ ปรากฎว่าธนาคารออมสินให้เปิดแอปฯ ได้ ส่วนธนาคารกรุงไทย ไม่ยอมให้เปิดแอปฯ ต้องพาลูกหลานมาด้วย จึงจะเปิดให้
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้แอปฯ มาแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็หลอกให้คุณยายทยอยโอนเงิน ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน จนถึงวันสุดท้าย 5 ตุลาคม 2566 มียอดสูงสุดคือวันที่ 16 กันยายน 2566 1 ล้านบาท, วันที่ 17 ตุลาคม 2566 150,000 บาท และครั้งสุดท้ายที่โอนคือมีเงินติดบัญชี 1,556.31 บาท คนร้ายหลอกให้โอนยอดนี้ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2566 สรุปโอนเงินออกจากบัญชีคุณยายซ่อนกลิ่นไปบัญชีอื่น 13 บัญชี รวมเป็นเงิน 2,585,153.31 บาท โดยที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใจเย็นใช้เวลาหลอกให้ คุณยายซ่อนกลิ่น โอนเป็นเวลาหลายวัน เพราะห้ามไม่ให้คุณยายบอกใคร เวลาพิมพ์ไลน์ ก็อย่าใช้คำว่าโอนเงิน ให้ใช้คำถ่ายเทมาไว้ที่บัญชีกลาง
คุณตระกูล ลูกชายของคุณยายซ่อนกลิ่น บอกว่า ลูกหลานไม่มีใครรู้เรื่องเลย เพราะแม่ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ มารู้ก็ต่อเมื่อแม่โทรศัพท์ไปยืมเงินหลานเพื่อมาจ่ายเงินเดือนลูกจ้างในบ้าน จึงแปลกใจ ตนจึงค่อย ๆ มาถามจากแม่ จนรู้ว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จึงรีบพาไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 และพอแม่รู้ว่าโดนหลอก เงินก็อาจไม่ได้คืน ทำให้แม่เสียใจ เขียนจดหมายสั่งเสีย "คำสั่งสุดท้ายของแม่" ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ข้อความว่า "ถ้าพรุ่งนี้ ไม่มีลมหายใจแล้ว ให้กู๊ดกับเก่ง เป็นผู้ไปรับเงินช่วยเผาศพ 3 เดือน และเงินอื่นถ้ามี ไม่ต้องจัดพิธีรีตองอะไร เผาที่วัดคลองเตย ติดต่อสำนักงานประถม" แล้วก็เขียนชื่อคนที่ให้ติดต่อ ลงท้ายด้วยคำว่า "จากแม่ซ่อนกลิ่น"
กรณีนี้ ถือว่าอำมหิตมากครับ คุณตระกูล ลูกชายของคุณยายซ่อนกลิ่น บอกว่า ตัวคุณแม่เริ่มป่วยเป็นอัลไซเมอร์ด้วย ส่วนคุณพ่อป่วยติดเตียงเริ่มจากอัลไซเมอร์ ติดเชื้อ แล้วก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งในคดีนี้ ผู้สื่อข่าวได้ประสานเบื้องต้นกับผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 หรือ ตำรวจไซเบอร์ ผู้การก็บอกว่า ตอนนี้คดีอยู่ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ หาก สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่งคดีไปให้กับตำรวจไซเบอร์ ก็พร้อมจะไล่สืบสวนนำตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้มาดำเนินคดี