สถิติอุบัติเหตุโค้งจตุรทิศ 2 ปี 14 ครั้ง เสียชีวิต 7 คน

View icon 179
วันที่ 21 ต.ค. 2566 | 05.39 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ไม่น่าเชื่อว่าอุบัติเหตุช่วงโค้งถนนเลียบบึงมักกะสัน ที่คร่าชีวิตรองผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 5 จะไม่ได้เกิดขึ้นเพียง 1-2 ครั้ง แต่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากถึง 14 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน นับตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปดูจุดเกิดเหตุบริเวณโค้งทางเบี่ยงไปทางแยกโบสถ์แม่พระ บนสะพานยกระดับจตุรทิศ หรือถนนเลียบบึงมักกะสัน แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ที่คร่าชีวิต พันตำรวจโท ทองเปลว หาญไพบูลย์ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เสียชีวิต อีกครั้ง เพื่อยืนยันสาเหตุและที่มาที่ไปตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่บอกว่าในจุดดังกล่าว มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ พบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งตัวเอส ซึ่งเป็นโค้งลงเนินไม่ลึกมาก แต่โค้งไม่รับ ผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงจะควบคุมรถได้ยาก และเสี่ยงที่จะพุ่งชนขอบทางเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ยังพบว่าในบริเวณดังกล่าวมีเสาไฟส่องแสงสว่างอยู่หลายต้นที่หลอดไฟไม่สว่างด้วย

จากการพูดคุยสอบถามชาวแฟลตดินแดงที่อาศัยอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า บริเวณดังกล่าวมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ขับขี่ที่ไม่คุ้นชินเส้นทาง และผู้ขับขี่ที่ขับรถใช้ความเร็ว มองไม่เห็นโค้งดังกล่าวได้อย่างชัดเจน จึงอยากให้มีการแก้ไขเพิ่มไฟส่องสว่าง และไฟสัญลักษณ์แจ้งเตือน เพราะเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังฝากเตือนถึงผู้ขับขี่ที่ต้องขับผ่านบริเวณโค้งทางเบี่ยงไปทางแยกโบสถ์แม่พระ บนสะพานยกระดับจตุรทิศ ให้ขับขี่อย่างระมัดระวัง อย่าใช้ความเร็ว เพราะเป็นจุดอันตราย

พันตำรวจเอก สันทัด ลยางกูร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ยอมรับว่า ถนนบริเวณนี้ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้งจริง จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 - ตุลาคม 2566 มีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุรวม 14 ครั้ง เฉพาะเมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้น 11 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 7 ราย ส่วนในปีนี้เกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง เสียชีวิต 3 ราย โดย พันตำรวจโท ทองเปลว เป็นผู้เสียชีวิตรายล่าสุด ปัญหาหลักเกิดขึ้นจากจุดดังกล่าวเป็นทางโค้งที่รถจะใช้เบี่ยงเส้นทางเพื่อไปออกแยกโบสถ์แม่พระ และเป็นทางเชื่อมต่อมาจากสะพานยกระดับจตุรทิศ เมื่อมีไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย

ที่ผ่านมาตำรวจที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่ 3 สน. เคยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหา และเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ได้ร้องขอให้มีการติดตั้งไฟส่องสว่างหลายจุดบนถนนเส้นนี้เพิ่ม แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการ ส่วนสาเหตุที่จุดนี้ค่อนข้างมืด ไม่ถึงกับไฟส่องสว่างส่องแสงมาไม่ถึง แต่เพราะถนนเส้นนี้ มีการเปิด-ปิดไฟเป็นเวลา ไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง