ตำรวจแยกทำ 2 คดีลูกจ้าง-นายจ้าง ยืนยันเร่งทำพร้อมกัน

View icon 124
วันที่ 29 ต.ค. 2566 | 04.29 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านขายอาหารญี่ปุ่น เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องที่ "ลูกจ้างสาว" อ้างถูก "นายจ้าง" ทำร้ายร่างกาย ใช้แรงงานหนัก ไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามสมควร ส่วนคดี "ลักทรัพย์" ที่นายจ้างแจ้งความ ยืนยันทำไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

หลังจากที่ เพจสายไหมต้องรอดพา "ลูกจ้างสาว" อายุ 21 ปี ที่ร้องเอาผิด "นายจ้าง" เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ไปตรวจสภาพร่างกาย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้เสพยาเสพติดหรือมีอาการหลอนประสาท หรือป่วยทางจิตเวช เหมือนที่ "นายจ้าง" บอกกับผู้สื่อข่าว ก็มีการหารือเรื่องนี้ร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวนและผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ ลงความเห็นว่าควรดำเนินการตรวจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของ "ลูกจ้างสาว" ให้เรียบร้อยก่อน จึงทำให้พนักงานสอบสวน ยังไม่เรียก "ลูกจ้างสาว" เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม

แต่ก็ไม่ได้ความว่า ตำรวจจะไม่ทำอะไรเลย โดยผู้กำกับการ สน.ภาษีเจริญ บอกว่า พนักงานสอบสวน ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบร้านอาหารที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในจุดต้องสงสัย นำไปประกอบในสำนวนคดีเพิ่มเติม

ส่วนบุคคลต่าง ๆ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันพฤติกรรม หรือข้อสังเกตต่าง ๆ ในอดีต ทั้งของฝั่งลูกจ้างและฝั่งนายจ้าง ยืนยันว่าได้รวบรวมไว้เป็นข้อมูลแล้ว หากมีข้อสงสัย หรือเห็นว่าจำเป็น ก็จะเชิญบุคคลนั้น ๆ มาสอบปากคำในฐานะพยาน โดยจะทำทั้ง 2 คดีไปพร้อม ๆ กัน

ในมุมมองของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ยอมรับว่า การที่ลูกจ้างมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และยอมรับว่าคำให้สัมภาษณ์ที่กล่าวอ้างเรื่องที่ถูกกระทำทารุณกรรมต่าง ๆ นานา มีความไม่สมเหตุผลบางอย่าง เช่น เหตุผลที่ทนเป็นฝ่ายถูกกระทำ หรือเหตุผลที่ไม่เข้าแจ้งความดำเนินคดี ส่วนบุคคลที่ออกมาให้สัมภาษณ์ ได้แนะนำให้คนที่ติดตามข่าวสาร รับฟังเรื่องนี้อย่างมีสติ

ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาใช้ความรุนแรงของเด็กและสตรี ที่ช่วงนี้มีข่าวออกมาบ่อย ๆ ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้วางเฉย ได้ประชุมเชิงวิชาการร่วมกันและลงความเห็นตรงกันว่า ควรจัดตั้งศูนย์ One Stop Service เป็นหน่วยงานกลางเพื่อแก้ปัญหาทุกด้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง