เช้านี้ที่หมอชิต - ญาติร่ำไห้ แห่โลงศพสาว อายุ 32 ปี มายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ช่วยตรวจสอบ หลังสาวผ่าคลอดแล้วเสียชีวิตจากน้ำคร่ำท่วมปอด แต่หมอไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ญาติได้นำโลงศพจำลองของ น.ส.ปนัดดา ปิ่นแก้ว อายุ 32 ปี ขึ้นรถกระบะขับแห่ไปหน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ให้ช่วยตรวจสอบการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ น.ส.ปนัดดา หลังไปผ่าคลอดที่โรงพยาบาล
น.ส.นัชนก จินาอ่อน อายุ 55 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวตั้งครรภ์ลูกคนแรก ก่อนหน้านั้นสุขภาพร่างกายปกติสมบูรณ์ ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 18 ตุลาคม ครบกำหนดคลอด แพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชุมพร นัดไปคลอดและพักฟื้นเฝ้าดูอาการ พอตกเย็นลูกโทรบอก แพทย์สอดยาให้เร่งคลอด 1 เม็ด แต่ยังไม่อาการเจ็บครรภ์ใด ๆ แค่รู้สึกปวดปัสสาวะ สามารถเดิน นั่ง คุยได้ปกติจนถึง 19.00 น.
จากนั้นเวลา 22.00 น. น้าสาวไปโรงพยาบาลเพื่อดูอาการหลาน ปรากฏว่า แพทย์บอก "ทำใจได้ไหม" ตอนนั้นไม่รู้หลานอาการหนักถึงขั้นปั๊มหัวใจ เลยบอกไปว่า ทำใจได้ และพอได้เห็นสภาพหลานถึงกับช็อก ทำใจไม่ได้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ แพทย์พยายามยื้อชีวิตหลาน สุดท้ายประมาณ 23.00 น. หลานก็เสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ แพทย์ชี้แจงว่า สาเหตุการเสียชีวิต คือ น้ำคร่ำท่วมปอด ญาติถามกลับว่าเพราะอะไรถึงน้ำคร่ำท่วมปอด แต่ไม่มีคำตอบจากแพทย์ และในหนังสือรับรองการตาย ระบุ ยังไม่พบสาเหตุการเสียชีวิต
ครอบครัวตัดสินใจส่งศพไปชันสูตรที่ โรงพยาบาลศิริราช ในหนังสือรับรองการตายระบุสาเหตุเกิดจาก ภาวะลิ่มน้ำคร่ำอุดตันในกระแสเลือด ยิ่งสร้างความสงสัยให้กับครอบครัวอย่างมาก จึงขอเก็บศพไว้จนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน
นายแพทย์ อนุ ทองแดง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อคลายปัญหาข้อสงสัยแก่ญาติให้เร็วที่สุด
