เตือนสายบุญอย่าหาทำ ปล่อยตั๊กแตน เสี่ยงกระทบเกษตรกร

View icon 69
วันที่ 4 พ.ย. 2566 | 04.09 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เกิดเทรนด์ทำบุญใหม่ ที่นักกีฏวิทยา ถึงขั้นออกมาเตือนดัง ๆ ว่าอย่าหาทำ เมื่อเกิดเหล่าสายบุญแห่ไปซื้อตั๊กแตนปาทังกามาปล่อยสู่ธรรมชาติ แต่ผลบุญนี้เสี่ยงกระทบต่อเกษตรกรปลูกข้าว ข้าวโพด และอ้อย ซ้ำรอยการแห่เลี้ยงด้วงสาคู ที่ทำชาวสวนปาล์ม และมะพร้าว เดือดร้อนกันมาแล้วจากผลผลิตเสียหาย

เทรนด์ใหม่การทำบุญด้วยการปล่อยตั๊กแตนปาทังกาสู่ธรรมชาตินี้ เผยแพร่ผ่าน 2 เพจดังที่ชาวเน็ตต่างพากันแสดงคาวมคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ไปในทิศทางติติง เพราะกังวลตั๊กแตนดังกล่าว จะกระทบกับเกษตกร ซ้ำรอยอดีตที่เคยเกิดการระบาดจากการอพยพของตั๊กแตน จนต้องรณรงค์ให้จับกินเพื่อปราบตั๊กแตนมาแล้วเมื่อช่วงก่อนปี 2530 และอีกคร้งช่วงปี 2563 

จากเทรนด์ใหม่แห่งการทำบุญนี้เอง ทีมข่าวตรวจสอบกับนักกีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ ก็บอกว่า ตั๊กแตนปาทังกา จัดอยู่ 1 ใน 3 ของตั๊กแตนที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากขนาดตัวใหญ่ ขยายพันธุ์ได้เร็ว โดยเฉพาะในอุณหภูมิที่ร้อนชื้นของไทยนี้เองก็เอื้อให้ขยายพันธุ์ได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหากนำไปปล่อยสู่ธรรมชาติก็เสี่ยงจะกระทบกับเกษตรกรที่ปลูกการปลูกทั้งข้าว, ข้าวโพด และอ้อย เนื่องจากเป็นอาหารที่ตั๊กแตนชื่นชอบ

อาจารย์เบญจคุณ ยังบอกด้วยว่า สภาพอาการร้อนชื้นของไทยปกติก็จะเอื้อต่อการขยายพันธุ์ของตั๊กแตนปาทังกา ที่ปกติจะผลิตลูกอยู่ที่ปีละ 1-2 รุ่น แต่ถ้าโลกร้อนเพิ่มก็จะยิ่งทำให้การผลิตลูกขยับขึ้นเป็นปีละ 2-3 รุ่นได้ ดังนั้น หากประชาชนนำไปปล่อยสู่ธรรมชาติก็จะยิ่งทำให้มีประชากรตั๊กแตนเพิ่มในแปลงเพาะปลูกพืช ซึ่งเป็นเหตุเสี่ยงทำให้เกิดการทำลายผลผลิตเพิ่มขึ้น จึงไม่แนะนำให้หาทำบุญด้วยวิธีนี้ เพราะเกษตรกรจะเดือดร้อนได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง