ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ความคืบหน้ากรณีคนขับรถตู้ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็กหญิงอายุ 13 ปี ล่าสุดเจ้าตัวยังยืนกรานปฏิเสธ ขณะที่ตำรวจเรียกผู้โดยสารตามรายชื่อที่ใช้บริการในวันดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อหาข้อเท็จจริง
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผู้กำกับการ สภ.แวงน้อย เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี กรณีครอบครัวของ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แวงน้อย และ สน.บางกอกใหญ่ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุข่มขืน เด็กหญิงเอ ในรถตู้ จนล่าสุดมีอาการเพ้อ สติแตก อยู่ในอาการเหม่อลอย และยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น ยังไม่สามารถให้การกับตำรวจได้
โดย ผู้กำกับการ สภ.แวงน้อย เปิดเผยว่า ล่าสุด ทางตำรวจสืบสวนนครบาล ได้ลงพื้นที่มาร่วมสืบสวนสอบสวนเก็บข้อมูลจากทาง สภ.แวงน้อย โดยทาง สภ.แวงน้อย เอง แม้จะยังสอบปากคำเด็ก 13 ปี ไม่ได้ ทางตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งสืบสวนสอบสวนในส่วนที่ทาง สภ.แวงน้อย จะสามารถทำได้ และบูรณาการร่วมกันในทุก ๆ ภาคส่วน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยในส่วนของคนขับรถตู้ ได้เดินทางมาพร้อมกับนำรถตู้คันที่ใช้รับส่งผู้โดยสารในวันดังกล่าวมาพบกับพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งทางตำรวจก็ได้ส่งตรวจที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ทันที สำหรับสอบสวนนั้น เบื้องต้นคนขับรถตู้ยังไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหา และยังไม่มีการแจ้งข้อหากับนายเดช แต่อย่างใด โดยเป็นการสอบปากคำในฐานะพยานที่เป็นเจ้าของรถตู้ และเป็นคนขับรถตู้ในวันดังกล่าว เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนเพียงพอในการดำเนินคดีกับคนขับรถตู้ ซึ่งจะต้องทำการสอบปากคำเด็กหญิง 13 ปี ให้ได้ก่อน จึงจะสามารถวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง
ซึ่งวันนี้ได้เรียกผู้โดยสารตามรายชื่อที่ใช้บริการในวันดังกล่าวมาสอบปากคำด้วย เพื่อหาข้อมูลว่าในวันดังกล่าวนั้น คนขับรถตู้มีพฤติกรรมแบบไหน และจอดรับส่งผู้โดยสารจุดใด หรือมีสิ่งที่น่าสงสัยมีพิรุธหรือไม่ และจากการตรวจสอบของทาง พฐ. เบื้องต้นที่ระบุว่าพบคราบเหลวสีแดงในรถตู้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้มีการเร่งรัดในหลักฐานส่วนนี้ไปแล้ว โดยจะใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 เดือน ก่อนจะสรุปผลว่าคราบเหลวสีแดงนั้นคือสารอะไร ก่อนจะส่งให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.แวงน้อย ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
