วันนี้ (9 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นางบุญกอง แก้วไชย อายุ 59 ปี ชาวบ้านโคกก่อง ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม ออกมาร้องทุกข์ผ่านหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนผ่านสื่อ เกี่ยวกับความเดือดร้อนการสัญจรไปมาของชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.โพธิ์ตาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากถนนคอนกรีต เส้นทางสายบ้านหนองบัว-โคกกุง อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ อบต.โพธิ์ตาก ระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร แต่บางจุดสภาพพังเสียหาย สัญจรไปมาลำบาก เป็นหลุมเป็นบ่อ ขาดการซ่อมบำรุงนานนับ 10 ปี เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่มีหน่วยงานมาดูแลแก้ไข
นอกจากนี้ยังได้สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของตนเอง ที่ต้องขับรถจักรยานยนต์พาลูกชายอายุ 16 ปี ป่วยพิการทางสมอง รวมถึงป่วยเป็นลมชัก ไปหาหมอ และไปเรียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำ จ.นครพนม ในตัวเมืองแทบทุกวัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ กระทั่งมีการถ่ายภาพสภาพถนนชำรุด โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อเรียกร้องความเห็นใจกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึง อบต.โพธิ์ตาก มาตรวจสอบแก้ไข พร้อมระบุข้อความว่า “เบิ่งเอาเด้อพี่น้องถนนสายหนองบัวไปโคกก่องว่ามันแสนสบายหรือไปแบบมีคนป่วยกว่าจะถึงโรงบาลมันคงจะตกรถตายก่อนไหมถึงจะมีหน่วยงาน อบต. มาทำ มีนายกที่แสนดีถนนก็จะประมาณนี้แหละจร้า”
ต่อมาไม่กี่วัน พบว่า มีหมายศาลจังหวัดนครพนม ลงวันที่ 27 ต.ค. 66 ส่งถึงบ้าน ระบุ นายสมคิด ลังกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตาก มอบอำนาจให้ทนายความ เป็นโจทย์ ฟ้องจำเลย คือ นางบุญกอง แก้วไชย ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ศาลจังหวัดนครพนม นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 15 ม.ค. 67
ทั้งนี้ นางบุญกอง ซึ่งตกเป็นจำเลย หลังจากสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนผ่านสื่อ จึงต้องการขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันต่อสู้คดี หากจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่เพียงต้องการขอความเป็นธรรมผ่านหน่วยงานเกี่ยวข้อง และต้องการให้ประชาชนรับรู้ถึงความผิดหวัง จากคนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน กลับมาฟ้องเอาผิดประชาชน ที่สะท้อนปัญหาความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบสภาพถนนดังกล่าว คือ ถนนสายบ้านหนองบัว-โคกก่อง-โคกกุง ในเขต ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนคพรนม มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตรเศษ จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของทางหลวงชนบท สร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ต่อมาปี 2554 ได้โอนย้ายมาอยู่ในความดูแลของ อบต.โพธิ์ตาก เคยมีการซ่อมเป็นช่วง และยังมีสภาพชำรุดเสียหายบางจุด ส่วนจุดที่พังเสียหาย และมีการโพสต์ภาพสะท้อนปัญหา พบว่าทางหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 22 อ.นาแก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้นำนำกำลัง และเครื่องจักรมาซ่อมแซม บรรเทาความเดือดร้อน แต่ยังไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ หากจะรื้อทำใหม่ตลอดทั้งเส้นทาง จะต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และทาง อบต.โพธิ์ตาก อยู่ระหว่างการพิจารณาหางบประมาณมาแก้ไข
ขณะเดียวกันได้มีการติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับ นายสมคิด ลังกา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ตาก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาทฟ้องร้องกับชาวบ้าน แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ขอให้สัมภาษณ์ และมีท่าทีไม่พอใจกับผู้สื่อข่าว พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนักข่าว และเดินหนี ด้วยท่าทีไม่พอใจ
ด้าน นางบุญกอง เปิดเผยว่า การถูก นายก อบต.โพธิ์ตาก ฟ้องฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นั้น ไม่ได้หนักใจ แต่เสียความรู้สึกมากกว่า เพราะ นายก อบต. ถือว่า เป็นคนของประชาชน ที่จะต้องรับทราบปัญหาความเดือดร้อน แต่มาพิพาทฟ้องร้องกับชาวบ้าน ตนมีความบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่เดือดร้อนในการสัญจรไปมา ต้องขับรถจักรยานยนต์พาลูกชายอายุ 16 ปี ป่วยพิการทางสมอง และป่วยเป็นลมชักไปหาหมอ และพาลูกไปเรียนที่ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด เห็นว่าเส้นทางดังกล่าวชาวบ้านเดือดร้อนมานาน เสี่ยงอุบัติเหตุแทบทุกวัน ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข จึงต้องการสะท้อนปัญหา สุดท้ายตกเป็นจำเลย ได้รับหมายศาลจังหวัดนคพรนมส่งถึงบ้าน ส่วนโจทย์เป็น นายก อบต.โพธิ์ตาก คนที่ตนเลือกอีกด้วย ตนพร้อมจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม หากไม่มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเป็นข้อเท็จจริง ยอมเดือดร้อนหากได้ทำเพื่อส่วนรวม ประชาชนได้ประโยชน์