หญิงคนหนึ่งแชร์ประสบการณ์ตรง กลั้นปัสสาวะและดื่มน้ำน้อย จนช็อกและติดเชื้อในกระแสเลือด แพทย์เตือนเสี่ยงเสียชีวิต
ดื่มน้ำน้อย กลั้นปัสสาวะเสี่ยงชีวิต วันนี้ ( 19 พ.ย.66) หญิงคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความและรูปลงโลกโซเชียล หลังเธอช็อกหมดสติ เข้าโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อในกระแสเลือดจากการดื่มน้ำน้อยและกลั้นปัสสาวะ
เธอเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ชอบกลั้นปัสสาวะ ทำมานานกว่า 3 เดือน เพราะห่วงทำงานและตอนตื่นเช้า ก็ไม่อยากลุกจากเตียงมาเข้าห้องน้ำ รวมถึงเธอดื่มน้ำน้อยมาก ไม่ถึงวันละ 2 แก้ว ไม่หิวน้ำก็ไม่ดื่ม จนวันเกิดเหตุหลังเข้าห้องน้ำ กลับมีอาการช็อก รู้สึกปวดตัว ปวดกระดูก หนาวสั่น มีไข้ พอไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอแจ้งว่าติดเชื้อในกระแสเลือด รักษาด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ ตอนนี้ดื่มน้ำเยอะขึ้น แต่ก็เข้าห้องน้ำผิดปกติ วันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
ขณะ ผศ. นพ.พจน์ อินทลาภาพร อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ กลุ่มงานอายุรศาสตร์ รพ.ราชวิถี เผยว่าหากหายป่วยแล้ว ยังปัสสาวะบ่อยอยู่ ก็อาจจะเกิดจากการที่เราดื่มน้ำเยอะขึ้น เพราะกังวลว่าจะกลับไปเป็นซ้ำ ดื่มน้ำเยอะก็ปัสสาวะเยอะเป็นปกติ รวมถึงการกลั้นปัสสาวะและการดื่มน้ำน้อย ส่วนที่ติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะเมื่อไม่ขับถ่ายของเสียออกจากกระเพาะปัสสาวะ แบคทีเรียเพิ่มจำนวนและไม่ระบายทิ้ง ไม่ดื่มน้ำไปชำระล้าง จะทำให้กรวยไตอับเสบ และเกิดการติดเชื้อ ร้ายแรงที่สุดคือเสี่ยงเสียชีวิตได้
แพทย์ยังแนะนำว่าควรจะดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว และไม่กลั้นปัสสาวะ เพื่อขับถ่ายของเสียและแบคทีเรีย ซึ่งจะลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ