ย้อนการทำงานสไตล์ เศรษฐา ติดกฎหมายแก้กฎหมาย

View icon 8
วันที่ 21 พ.ย. 2566 | 07.12 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้ต้องบอกว่า มีนโยบายเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปากท้องออกมาหลายอย่าง นายกฯ เองก็ให้ความเห็นไว้หลายเรื่อง ยกเว้นเรื่อง "ดิจิทัลวอลเล็ต" ถูกถามปุ๊บดูเหมือน นายกฯ จะเจ็บคอปั๊บ ไม่ค่อยอยากจะพูดถึง ย้ำคำพูดเดิม วิกฤตเศรษฐกิจ จำเป็นต้องกระตุ้นด้วยเงินก้อนใหญ่

โดยก่อนที่จะเข้ามาบริหารประเทศ นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นี่ถูกเรียกว่าเป็น "เสาหลักเศรษฐกิจ พิชิตความจน" เลยทีเดียว ทีมข่าวไปค้นการ์ตูนหาเสียงของ นายกฯ เศรษฐา ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ก็เป็นไปตามภาพ 2 ช่องแรก มีตัวร้ายออกมา "รวยกระจุก จนกระจาย" จากนั้นฮีโรมาแล้ว "ข้าคือเสาหลักเศรษฐกิจ" ซึ่งก็หมายถึงนายกฯ เศรษฐา

หลังเปิดตัวแล้วก็ตามด้วยกระบวนท่าที่ 29 ซึ่งตอนนั้นก็คือหมายเลขของพรรคเพื่อไทย ใช้กระบวนท่า 10,000 บาท เศรษฐกิจดีทั้งประเทศ ช่องสุดท้ายนี่เจ้าตัวร้ายความยากจนกระเจิงไปเลย อุทานออกมาว่า "ท่าในตำนานที่ใคร ๆ ว่าทำไม่ได้ แต่เสาหลักเศรษฐกิจทำได้ เติมเงินทีเดียว 10,000 บาท เศรษฐกิจเติบโตขึ้นหลายเท่า กระจายทุกจังหวัด"

ส่วนสถานะของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้นายกฯ เศรษฐา จะยืนยันหนักแน่นทำต่อแน่ แต่มีปัจจัยนอกเหนือการควบคุมเป็นตัวแปรสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า จะขัดกฎหมายหรือเปล่า ซึ่งตอนนี้ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความเห็นของกฤษฎีกา ยังไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร โดยนายกฯ เศรษฐา พูดถึงกรณีกฎหมายไม่ผ่านไว้กับหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจว่า "ถ้า พ.ร.บ.เงินกู้ ไม่ผ่าน ก็ถือว่าเป็นความซวยของประเทศ ผมไม่รู้ว่า ผมพูดอย่างนี้ได้หรือเปล่า"

ทิศทางมาแบบนี้ก็เกิดคำถามว่า สุดท้ายก็เหมือนกับที่เขาดักคอกันไว้ใช่ไหมว่า จะออกกฎหมายกู้เงินเพราะรู้อยู่แล้วว่าทำไม่ได้ ขัดกฎหมาย และก็จะจบที่ว่าไปต่อไม่ได้ เพราะกฤษฎีกาหรือศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าไปติดอยู่ด่านไหน

แต่ถ้าย้อนไปดูแนวนโยบายที่ท่านนายกฯ มอบให้กับ 16 รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเปิดเผยโดย คุณมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า "ตรงไหนที่ติดระเบียบ ต้องแก้ไขระเบียบ นโยบายใดที่เร่งด่วน สัญญากับประชาชนไว้ ห้ามบอกว่าทำไม่ได้ ต้องทำให้ได้ ติดกฎหมาย แก้กฎหมาย ติดระเบียบ แก้ระเบียบ ติดที่คน เปลี่ยนคน" ฟังแบบนี้ก็เรียกว่า รัฐบาลเศรษฐาเดินหน้าชนทุกปัญหา เพื่อทำตามสัญญากับประชาชน

ซึ่งหากยังยึดตามแนวทางนี้ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ก็ยังมีความหวัง เพราะถ้าบอกขัดกฎหมายก็ต้องแก้กฎหมาย ถ้าคนขับเคลื่อนนโยบายไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนคน จึงต้องจับตาต่อว่า สุดท้ายดิจิทัลวอลเล็ตจะจบอย่างไร

ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เปิดแถลงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ในไตรมาส 3/66 ว่า ขยายตัวได้เพียง 1.5% จากที่ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ 2.0-2.2% โดยเป็นการขยายตัวชะลอลงจาก 1.8% ในไตรมาส 2/66 ซึ่งเป็นผลมาจากจากการส่งออกรวมที่หดตัวลดลงต่อเนื่องมา 4 ไตรมาส ส่วนภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจในรอบ 9 เดือน ขยายตัวได้ 2.5% โดยคาดว่าปีหน้าจะขยายตัวได้ 2.7-3.7% จากการส่งออกที่ฟื้นตัว

โดยหลังสภาพัฒน์ฯ แถลง นายกฯ บอกรู้สึกตกใจ และแสดงความเป็นห่วงต่อตัวเลข GDP ในไตรมาส 3/66 ที่ขยายตัวได้เพียง 1.5%

ท่านก็ยังย้ำว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจ จำเป็น เร่งด่วน ต้องทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะไม่เสียสมาธิในการทำงาน แม้จะมีเสียงทักท้วงในหลายซึ่งเมื่อวานนี้ท่านยังชักชวนสื่อมวลชนและประชาชน ติดตามข่าวดีในการแถลงข่าวใหญ่แก้หนี้นอกระบบในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ด้วย

พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจ คุณไหม ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประเมินตัวเลขต่อเนื่องจากของสภาพัฒน์ฯ ว่า การหดตัวของเศรษฐกิจ เกิดจากภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนของภาครัฐ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการกระตุ้นการบริโภคจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมตั้งคำถามด้วยว่า ตัวเลขที่ออกมาแบบนี้จะยังฝืนกระตุ้นภาคบริโภคผ่านโครงการนี้อีกหรือไม่