ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปดูครอบครัวของแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาส จับเป็นตัวประกันบ้าง โดยเฉพาะนางบุญญาริน ศรีจันทร์ แม่ของนางสาวณัฐฐาวรี มูลกัน หรือ โย อายุ 35 ปี ซึ่งไปเป็นพนักงานบรรจุมันฝรั่งลงถุง หลังประสบปัญหาหนี้สินและความยากจน โดยฝากลูก 2 คนไว้กับแม่ และถูกกลุ่มฮามาส จับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง
นางบุญญาริน บอกว่า ตอนนี้ตนเอง พร้อมหลาน 2 คน ได้แต่นำภาพภ่าย นางสาวณัฐฐาวรี ที่ส่งมาให้ทางแอปพลิเคชันไลน์ก่อนหน้านี้ มานั่งดูด้วยความห่วงใย และคิดถึง พร้อมทั้งรอฟังข่าวดี และความหวังว่า นางสาวณัฐฐาวรี จะได้รับการปล่อยตัว แล้วส่งตัวกลับบ้านล็อตแรก หลังจากประเทศอิสราเอล ประกาศหยุดยิงวันนี้ แต่หากไม่ได้รับการปล่อยตัววันนี้ ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ แจ้งข่าวสารให้ครอบครัวทราบต่อเนื่อง เพราะลูกสาวถูกจับเป็นตัวประกันนานเกือบ 2 เดือนแล้ว
ครอบครัวรอฟังข่าวดี ลูกได้รับการปล่อยตัว จ.สุรินทร์
อีกหนึ่งครอบครัวที่รอความหวัง จะได้เห็นหน้าคนในครอบครัวได้รับการปล่อยตัว แล้วกลับมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันคือ ครอบครัวของนายคมกริช ชมบัว อายุ 28 ปี หนึ่งในตัวประกันที่กลุ่มฮามาสจับไป ชาวบ้านในตำบลโชกเหนือ อำเภอลำดวน จังหวัดสุรินทร์ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางครอบครัว รวมทั้งญาติพี่น้อง ก็พากันรอฟังข่าวดี และทุกคนต่างมีความหวังว่า นายคมกริช จะได้รับการปล่อยตัวออกในวันนี้ หลังจากกินไม่ได้นอนไม่หลับมาตลอดกว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนบ้าน ผู้นำชุมชนมาให้กำลังใจ และรอติดข่าวอย่างมีความหวัง
ภรรยาแรงงานไทยชาวม้ง ลุ้นสามีได้รับการปล่อยตัว จ.เชียงราย
เช่นเดียวกับครอบครัวของ นายกง แซ่เล่า แรงงานไทยชาวม้ง บ้านม้งเก้าหลัง ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งไปทำงานในสวนอาโวคาโดที่ประเทศอิสราเอล แล้วถูกกองกำลังติดอาวุธฮามาส บุกเข้าไปล็อกคอจับเป็นตัวประกัน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็รอฟังข่าวดีเช่นกัน
นางสาวสุนทร แซ่ลี ลุ้นว่าสามีจะได้รับการปล่อยตัว และส่งกลับบ้านเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ดีใจที่มีข่าวว่าแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จะได้รับการปล่อยตัว และเตรียมเมื่อส่มีกลับมาถึงก็จะจัดพิธีต้อนรับตามแบบของชาวม้ง
แรงงานไทยกลับจากอิสราเอล ยังไร้งานรองรับ รอเงินเยียวยา จ.ขอนแก่น
ไปดูความเป็นอยู่ของแรงงานไทย ที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ก่อนหนี้กันบ้าง ตอนนี้หลายคนยังคงตกงาน ไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว มีเพียงเงิน 15,000 บาท จากกรมการจัดหางานเท่านั้น ที่เพิ่งได้รับ ส่วนเงินชดเชยรายได้ที่รัฐบาลประกาศว่าจะให้คนละ 50,000 บาท ยังไร้วี่แวว ตอนนี้ต้องรับจ้างทำงานตามไซต์งานก่อสร้าง และรับจ้างทั่วไป แต่รายได้มีก็เพียงพอเฉพาะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวเท่านั้น ไม่เหลือพอที่จะเก็บออมได้
จึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไปทำงานป็นคนดูแลสวนกล้วย ที่ประเทศอิสราเอล อีกครั้ง โดยสมัครไปในโครงการความร่วมมือไทย-อิสราเอล เพื่อการจัดหางาน โดยจะขายวัว 6 ตัว ได้เงินแสนกว่าบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าอยู่ค่ากินที่ประเทศอิสราเอล โดยหวังว่าจะทำให้ฐานะทางครอบครัวดีขึ้น มีเงินส่งลูก 2 คน เรียนหนังสือในระดับที่สูงขึ้น