สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - คนหน้าคล้าย แป้ง นาโหนด อัดคลิปเผยแพร่เป็นคลิปที่ 2 หลังหลบหนีจากเทือกเขาบรรทัด ยืนยันจะมอบตัวหากนำอัยการ "บ." เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะที่ นายกรัฐมนตรี แนะนำให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่าต่อสู้ เพราะจะเสี่ยงเกิดอันตรายด้วยกันทั้งสองฝ่าย
คลิปที่ 2 ของคนหน้าคล้ายกับ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ที่ถูกส่งต่อให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ ใจความยังคงเป็นการย้ำเรื่องที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการพิจารณาคดี เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว ทั้งที่ถูกกล่าวหาเพียงความผิดเกี่ยวกับการปล้น และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นที่ถูกดำเนินคดีฐานพยายายามฆ่าเจ้าหน้าที่กลับได้รับการประกันตัว และบางคนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทั้งที่คนกลุ่มนี้ร่วมกันวางแผนในการก่อเหตุ โดยยืนยันว่า หากนำ อัยการ "บ." เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็พร้อมมอบตัว ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะขอสู้จนกว่าจะเป็นศพ
นอกจากนี้ยังอ้างถึงเหตุการณ์ยิงปะทะบนเทือกเขาบรรทัด ว่าตนเองไม่เคยยิงปืนใส่ตำรวจ นอกจากยิงปืนขึ้นฟ้า ทั้งที่สามารถเอาชีวิตอีกฝ่ายได้
สอดคล้องกับที่ นายวัลลภ นาคบัว ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ว่าจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นว่าในคดีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ แป้ง นาโหนด พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี ทั้ง แป้ง นาโหนด, พลเรือน, ตำรวจ, ทหาร และบุคคลในกระบวนการยุติธรรมรวมหลายคน แต่ในคำพิพากษาของศาล กลับมีการพิพากษา แป้ง นาโหนด เพียงคนเดียว มีการแยกสำนวนฟ้องจำเลยบางคน โดยไม่พบว่ามีการฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ยืนยันว่าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีหลักฐานเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐได้ก็สามารถฟ้องเป็นคดีได้ใหม่ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ DSI ประสานกับตำรวจ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ต่อไป
ด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ยืนยันว่า ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวที่เป็นอัยการในพื้นที่ภาคใต้ และตำรวจที่รู้จัก เชื่อได้ว่าเรื่องการรับเงินสินบนเพื่อช่วยเหลือทางคดีให้กับ แป้ง นาโหนด มีมูลข้อเท็จจริง แต่เอาผิดกับคนที่อยู่ในข่าวต้องสงสัยได้ยาก เพราะขาดพยานหลักฐาน ส่วนตัวได้แต่หวังให้ แป้ง นาโหนด เปิดเผยข้อเท็จจริงให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบว่ากระบวนการยุติธรรมมีจุดบกพร่องจริงหรือไม่
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความกลุ่มทนายใจดี แถลงถึงกรณีที่ถูกระบุว่า ญาติของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด เคยส่งหนังสือขอให้ช่วยติดตามการยื่นหนังสือไปยัง 10 หน่วยงาน ในกระบวนการยุติธรรม พร้อมแนบบัญชีรายชื่อผู้ต้องขังอีก 393 คน โดยระบุว่าเคยถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จังหวัดพัทลุง ยัดเยียดข้อหาตบทรัพย์ ว่า เมื่อปี 2564 ชาวบ้านในจังหวัดพัทลุง ติดต่อมาหาตน เพื่อช่วยว่าความในดคึ หลังถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง บุกไปยังที่ดิน เสี่ยแป้ง นาโหนด ก่อนใช้อาวุธปืน จี้คนงาน จากนั้นก็นำชาวบ้านเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทลุง ทำให้ตนเริ่มรู้จักกับเสี่ย แป้ง ตั้งแต่เหตุครั้งนี้ และคดีนี้ ศาลพิพากษา ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน และยานพาหนะ ซึ่งอัตราโทษต่างกันมาก แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการ ทั้งที่ไปร่วมก่อเหตุดัวยกัน ซึ่งเชื่อว่าคงน้อยใจกระบวนการยุติธรรมด้วย เพราะที่ผ่านมา ยื่นคำร้องขออุทธรณ์ไปแล้วหลายครั้ง อีกทั้ง แป้ง นาโหนด ก็ยื่นตามเงื่อนไขทุกอย่างของกรมราชทัณฑ์ แต่กลับไม่ได้รับการประกันตัว
ทั้งนี้ กลุ่มทนายใจดี บอกว่าพร้อมเป็นคนกลาง นำ เสี่ยแป้ง นาโหนด เข้ามอบตัว และหาก เสี่ยแป้ง นาโหนด มีหลักฐานที่จะดำเนินการในกระบวนการยุติธรรม และพร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ก็พร้อมช่วยเหลือ จึงขอให้ติดต่อมาทางตนได้ และตนก็จะพาเข้าไปมอบตัว
เรื่องนี้ทาง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการสูงสุด มีคำสั่งโดยให้อธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบรายละเอียด ทั้งสำนวนคดีที่ เสี่ยแป้ง กล่าวถึง และอัยการ "บ." ที่ถูกอ้างถึง พร้อมกับผลการตรวจสอบให้อัยการสูงสุดรับทราบเป็นการด่วนแล้ว
