ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจไล่ล่าแก๊งช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง นาโหนด อีกคนที่ยังหลบหนี สอบพบทำหน้าที่วางแผนตั้งแต่ต้น ขณะที่สำนักงานตำรวจแต่งชาติ ส่งผู้บังคับการกองตรวจราชการ 9 สอบสวนตำรวจที่ถูกกล่าวหา
ความคืบหน้าการไล่ล่า นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาคนสำคัญที่หลบหนีการควบคุมตัวจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ตุลคม 2566 ก่อนปะทะกับตำรวจบนเทือกเขาบรรทัด รอยต่อจังหวัดตรัง และพัทลุง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากนั้นได้หลบหนีจากเทือกเขาบรรทัด กลางดึกวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 แล้วหลบหนีไปนอกพื้นที่
โดยตำรวจได้แกะรอย กระทั่งติดตามจับกุมขบวนการช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ได้ 4 คน เมื่อวานนี้ โดย 1 ใน 4 คน คือ นายทนงศักดิ์ อายุ 50 ปี เป็นน้องชายอดีตกำนันชื่อดังในอำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ที่ถือเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งหลังจาก เสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนีลงจากเทือกเขาบรรทัด ก็ได้ใช้โทรศัพท์ของทีมงานที่ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ไปรับที่เชิงเขาบรรทัด โทรศัพท์ไปหา นายทนงศักดิ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นก็เดินทางออกจากเชิงเขาบรรทัด ผ่าน สภ.ตะโหมด สภ.ป่าบอน จังหวัดพัทลุง ก่อนเข้าพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
และช่วงกลางดึก ของวันที่ 9 ต่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ก็มีรถกระบะสีขาวของ นายอัชชัร อายุ 30 ปี ชาวตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ไปจอดรอที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ก่อนที่ นายอัชชัร จะทำหน้าที่ขับรถนำทางรถยนต์ยี่ห้อโตโยตา สีดำ ที่มี นายสืบศักดิ์ เป็นคนขับ เข้าไปยังพื้นที่จังหวัดสตูล ก่อนไปทางอำเภอ จากนั้นก็มีคนในขบวนการขี่รถจักรยานยนต์มารับ ก่อนจะนำ เสี่ยแป้ง นาโหนด ไปลงเรือประมงพื้นบ้าน ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในอำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อหลบหนีไปอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่เป็นอิทธิพลของกลุ่มค้ายาเสพติด
ซึ่งขณะนี้ยังมีตัวละครอีกคนที่ยังหลบหนี ซึ่งคนนี้เป็นผู้ที่วางแผนการช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง นาโหนด หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ตั้งแต่ต้น
ส่วนที่ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง วันนี้ พลตำรวจตรี โอภาส ทั่งทอง ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 9 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะกรรมการสอบสวน ได้ลงพื้นที่ไปสอบสวนตำรวจยศพันตำรวจโท และดาบตำรวจ 2 นาย ที่ถูก เสี่ยแป้ง นาโหนด ระบุในจดหมายขอความเป็นธรรม ว่าเรียกรับเงินจาก เสี่ยแป้ง นาโหนด ซึ่งขณะนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ยังไม่มีคำสั่งย้ายนายตำรวจที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรม และรอผลการสอบสวนก่อน
