แม่วอนช่วย ลูกสาววัย 19 ปี ถูกกลุ่มคนร้ายคุมตัวเรียกค่าไถ่ 50,000 บาท หลังลูกสาวสมัครไปทำงานที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่กลับถูกพาตัวข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะติดต่อหาแม่ทางแช็ตให้ช่วยเหลือ
1 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ต.โนนทอง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น หลังจากที่ญาติได้มีการโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือ น้องมิ้น อายุ 19 ปี ซึ่งผู้โพสต์ระบุว่า น้องมิ้น ได้ถูกกลุ่มคนร้ายหลอกล่อให้ไปทำงานที่ จ.สระแก้ว แต่กลับพาตัวข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา ก่อนจะติดต่อมายังครอบครัวเพื่อเรียกเงิน 50,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวน้องมิ้น โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.พัชราพร แม่ของน้องมิ้น พร้อมกับบรรดาญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่เดินทางมาสอบถามความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.พัชราพร แม่ของน้องมิ้น เล่าว่า ตนเองได้ทราบรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากเพื่อน ๆ ของน้องมิ้น ก่อนที่จะทราบว่าลูกสาวได้ถูกพาตัวไป โดยเพื่อนของลูกสาวเล่าให้ฟังว่า น้องมิ้น ได้มีการหางานทำผ่านทางเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊คต่าง ๆ จนกระทั้งไปเจองานงานหนึ่งที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนที่น้องมิ้นจะให้เพื่อนประมาณ 3 คน ไปส่งขึ้นรถโดยสารประจำทางที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น ช่วงกลางคืน โดยที่ไม่ได้บอกให้แม่และคนในครอบครัวรู้มาก่อนว่าจะไปทำงานหาเงินที่ต่างจังหวัด
ในวันที่เดินทางไปถึง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว น้องมิ้นยังได้ทักแช็ตข้อความมาบอกเพื่อนๆ ว่า ถึงที่ทำงานแล้ว และปลอดภัยดี เมื่อไปถึงก็มีกลุ่มคนเอารถมารับและพาน้องมิ้นขึ้นรถไป แต่ในระหว่างทางน้องมิ้นสังเกตเห็นว่า รถที่มารับไม่ได้จอดอยู่ในฝั่งประเทศไทย แต่กลับพาขับข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งน้องมิ้นได้โทรหาเพื่อนด้วยน้ำเสียงสั่นว่า กำลังถูกพาข้ามไปยังกัมพูชา ก่อนที่จะขาดการติดต่อไป ตั้งแต่วันนั้น หลังทราบเรื่องแม่ เสียใจและเป็นห่วงลูกเป็นอย่างมาก จึงเข้าไปดูในเฟซบุ๊กลูกตั้งแต่วันแรกที่ออกจากบ้านไป จึงทราบว่าลูกได้ติดต่อไปทำงานกับหญิงสาวรายหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ค มีการให้น้องมิ้นไปเปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชี และเปิดใช้ซิมมือถือต่างประเทศ
น.ส.พัชราพร เล่าต่อว่า หลังจากที่ตนเองพยายามทักแช็ตหาลูกสาว ในที่สุดก็สามารถติดต่อพูดคุยกับลูกสาวได้ในวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทันทีที่โทรแช็ตหาลูกสาว ลูกได้ร้องไห้ กรีดร้องขอความช่วยเหลือ บอกว่าตนเองถูกจับตัวมา และไม่ได้ทำงานตามที่สมัครไว้ แม่จึงพยายามสอบถามรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็คุยกันไม่ได้มาก จากนั้นก็มีกลุ่มคนที่ไม่ใช่ลูกสาว ใช้เฟซบุ๊คของลูกสาวทักแช็ตมาหา บอกว่า หนูสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ตนเองจำได้ว่า ลูกสาวจะไม่ใช้คำพูดลักษณะนี้ เช่น คำว่า หนู กับแม่ แต่จะใช้คำว่า “อิหล่า” ตนเองจึงพยายามพูดคุย
จนกระทั่งคนกลุ่มดังกล่าวบอกว่า ต้องการเงิน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวลูกสาว แต่ไม่บอกว่าจะปล่อยตัวมาในลักษณะใด ตอนนี้ตนเองเป็นห่วงลูกสาวอย่างมาก กลัวว่าลูกจะได้รับอันตราย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยลูกสาวด้วย และตนเองยืนยันว่า ก่อนที่ลูกสาวจะออกจากบ้านไป ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะหรือมีปัญหากับคนในครอบครัว