สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ยังคงมีการทำโทษเด็กนักเรียนปรากฏให้เห็นเป็นข่าว เชื่อหรือไม่ นำเสนอข่าวแบบนี้มาตั้งแต่ต้นปี ถ้ารวมคดีนี้ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8 คดีแล้ว และรายล่าสุดนี่ก็ไม่เบา ครูทำโทษเด็กนักเรียนชั้น ป.5 เพราะทำการบ้าน 107 หน้า ไม่เรียบร้อย ตีตามจำนวนหน้าที่ไม่เสร็จ รวม 70 ที ด้วยกัน
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปช่วงใกล้ ๆ จะปิดภาคเรียน มีครูคนหนึ่งที่สอนวิชาภาษาไทยให้กับเด็กนักเรียนชั้น ป.5 ได้ให้การบ้านไปทำช่วงปิดภาคเรียนทั้งหมดรวม 107 หน้า บอกว่า เปิดภาคเรียนให้นำมาส่งด้วย แต่ปรากฏว่าเด็กชายคนนี้ อายุ 11 ขวบ ทำไปได้เพียง 37 หน้า เพราะตนเองไม่ถนัด เด็กชายอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งมีความรู้ไม่มากพอจะชี้แนะได้ ประกอบกับตัวเด็กเอง เป็นนักกีฬาตะกร้อของโรงเรียน จึงไม่ใส่ใจที่จะทำการบ้านนี้มากนัก
พอถึงเวลาต้องส่งการบ้าน จึงส่งไปแบบทั้งที่ยังไม่ครบ ระหว่างนั้นครูก็ผ่อนผันให้เวลาแก้ไข แต่ปรากฏว่าเด็กชายก็ทำไม่ได้อีก คราวนี้ครูทำโทษนักเรียนทั้งหมดรวม 14 คน ตามจำนวนหน้ากระดาษที่ทำไม่ได้ เด็กชายคนนี้โดนตีไป 70 ที จนก้นช้ำทั้ง 2 ข้าง ไข้ขึ้น นั่งไม่ได้
ระหว่างนั้นครูได้โทรศัพท์แจ้งกับผู้ปกครองว่า จะอาสาพาเด็กไปหาหมอเพื่อรักษา แต่ให้เด็กบอกกับหมอว่า ประสบอุบัติเหตุล้มกระแทกไม้ ทำให้คลินิกที่รักษาวินิจฉัยผิดพลาดให้ยาไปทา ซึ่งแน่นอนว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงต้องพาไปรักษาอาการบาดเจ็บใหม่ที่โรงพยาบาล ความจึงแตก ที่น่าตกใจไปกว่านั้น เด็กชายคนนี้ไม่ใช่คนที่ถูกทำโทษหนักที่สุด เด็กที่ถูกตีมากที่สุด ถูกตีถึง 78 ที พอครอบครัวรู้ว่าครูทำโทษแบบนี้ก็รับไม่ได้ อยากพาเด็กชายย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ ก็ติดขัดว่าเป็นช่วงกลางเทอม ไม่สามารถย้ายโรงเรียนได้ ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร จึงมาร้องขอเพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ
นี่เป็นข้อความที่มีการสนทนากันระหว่างครูที่ทำโทษกับแม่ของเด็กชาย โดยครูได้พิมพ์ข้อความยอมรับผิด และขอโทษผู้ปกครอง ส่งเข้าไปในกลุ่มผู้ปกครองที่มีสมาชิกอยู่ 87 คน พร้อมอธิบายเหตุผลที่ทำลงไปว่า เพราะเป็นการบ้านที่สั่งให้ทำล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน จนเปิดเทอม 1 พฤศจิกายนแล้ว เด็กชายยังทำไม่เสร็จ ส่วนตัวเห็นว่าเทอม 2 โรงเรียนมีกิจกรรมค่อนข้างมาก กลัวว่าจะสอนไม่ทัน อีกทั้งการบ้านที่ให้ไป เด็กสามารถหาคำตอบได้เองจากอินเทอร์เน็ต ไม่อยากให้เด็กเอาแต่เล่นเกม อีกทั้งพอเปิดภาคเรียนก็มีบางคนทำเสร็จ จึงพูดคุยทำข้อตกลงกันว่าจะให้เวลาแก้ไข หากเสร็จไม่ทันจะทำโทษโดยการตี 1 หน้า ต่อ 1 ครั้ง ซึ่งก็ผ่อนผันมาให้เรื่อย ๆ คอยบอกว่าถ้าสงสัยอะไรให้ถามครูได้ จนมาถึงวันสุดท้าย ถึงตัดสินใจทำโทษตามที่ได้ตกลงกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาร้าย แค่ต้องการให้ฝึกความรับผิดชอบ
ซึ่งแม่ก็ถามไปว่า ครูมีวิธีการทำโทษที่ดีกว่านี้หรือไม่ ครูบอกว่า ไม่ใช่ว่าไม่ทำโทษโดยการทำกิจกรรมอื่น แต่ทำแล้วเด็กกลับเลือกไม่ทำการบ้านมาเลย ยอมไปเก็บขยะ ล้างห้องน้ำ ขุดดินแทน และครูก็เคยขออนุญาตผู้ปกครอง ตอนที่มีการประชุมกันแล้ว
ซึ่งแม่ก็เห็นว่าการลงโทษด้วยการตีถึง 70 ครั้ง มากเกินไป ครูจึงตัดจบด้วยการขอให้ผู้ปกครองชี้แนะวิธีการทำโทษที่โรงเรียน
ซึ่งแม่ก็พิมพ์ไปบอกว่า ถ้าแบบนั้นขอไม่อนุญาตให้ทำโทษลูกทั้ง 2 คน ด้วยการตี หรือทำร้ายร่างกาย ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น เชื่อว่าที่ครูทำไปเพราะหวังดี แต่ถ้าจะทำอะไรที่เกินเลยไป ควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยอมรับว่าจากภาพถ่ายที่เห็น ครูทำเกินกว่าเหตุจริง ถึงแม้ว่าจะมีเจตนาดี อยากให้เด็กมีความรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ควรตีเด็ก เพราะตามกฎหมายคุ้มครองเด็กและกฎกระทรวง ได้ยกเลิกการตีเด็กมานานแล้ว และแม้ว่าผู้ปกครองจะอนุญาตให้ตี ครูก็ตีไม่ได้ ต้องลงโทษด้วยวิธีการอื่น ซึ่งหากข้อสรุปออกมาว่า ครูกระทำผิดจริง ก็ต้องถูกลงโทษไปตามกฎระเบียบ
นางประภัสสร บุญสมัย อายุ 49 ปี รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปฐมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 กล่าวว่า หลังทราบเรื่องทางเขตฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นให้ครูที่ทำโทษเด็กให้ไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น รวมถึงผู้อำนวยการที่ต้องไปช่วยราชการในเขตพื้นที่การศึกษา ฐานรายงานล่าช้า โดยจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ก็อยากให้ผู้ปกครองเด็กพาเด็กไปเรียนที่เดิม เพราะครูที่กระทำไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว
ส่วนวิธีการทำโทษที่ทำได้ จะต้องไม่ใช่วิธีการที่รุนแรง หรือกลั่นแกล้งลงโทษเพราะโกรธ ต้องคำนึงถึงอายุ และความร้ายแรงของพฤติการณ์ด้วย ซึ่งทำได้เพียง 4 วิธี ได้แก่ การว่ากล่าวตักเตือน, ทำทัณฑ์บน, ตัดคะแนนความประพฤติ, ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
หากใครเจอเรื่องแบบนี้ หรือการทำโทษด้วยวิธีรุนแรงแบบอื่น ๆ นอกจากการแจ้งความกับตำรวจแล้ว ยังสามารถแจ้งไปที่ สายด่วนกระทรวงศึกษาธิการ 1579 และศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. 02-288-5795 และ 02-288-5599 ได้ด้วย
เชื่อหรือไม่ เฉพาะข่าวใหญ่ ๆ ที่เคยนำเสนอเกี่ยวกับข่าวครูตีเด็ก รวมข่าวนี้ด้วยก็ไม่ต่ำกว่า 8 เหตุการณ์แล้ว นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ลูกชายถูกครูตี 13 ครั้ง จังหวัดสมุทรปราการ, ครูตีเด็ก 3 ขวบ ในโรงเรียนจังหวัดภูเก็ต, ผู้ปกครองนักเรียน ม.2 ร้องขอความเป็นธรรมสื่อ หลังมีนักเรียน 2 คน ถูกครูพละตบกกหูจนบาดเจ็บ, ผู้ปกครองแจ้งจับครู เพราะใช้ไม้เรียวตีจนลูกยกมือไม่ขึ้น หรือก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งมีกรณีที่ครูใช้ไม้เรียวตีก้นเด็กนักเรียนหญิง 18 ที จนไข้ขึ้นที่จังหวัดสระแก้ว เป็นข่าวไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
เรื่องการทำโทษเด็ก เคยมีแหล่งข่าวให้สัมภาษณ์ว่า การตีเด็กนักเรียนเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา ฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากตำรวจทำการไกล่เกลี่ย หรือพยายามให้เกิดการยอมความ จะมีความผิดตามกฎหมายมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้
