ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ของเด็ก วัย 1 ขวบ 4 เดือน ยืนยันจะเดินหน้า ดำเนินคดีอย่างเต็มที่ หลังลูกชายล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ จึงพาไปสแกนสมองโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่พยาบาลกลับนำ ยาที่ใช้ภายนอก ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด มาให้ลูกกิน ทำเอาตอนนี้น้องอาการโคม่าหนัก
จากกรณี เพจมูลนิธิ "เป็นหนึ่ง" เปิดเผยข้อมูลว่า ได้รับการร้องทุกข์ขอให้เข้าช่วยเหลือ กรณีที่เด็กชายวัย 1 ขวบ 4 เดือน ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มหัวฟาด และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ทางพยาบาลกับให้ยาผิด จนทำให้เด็กชาย มีแผลพุพองตามร่างกายและสุดท้ายต้องเข้ารักษาในห้องฉุกเฉิน
ล่าสุด นางสาวชลิดา พะละมาตย์ มูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมกับ นางสาวสุพัตรา แม่ของเด็กผู้บาดเจ็บ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวให้ฟังว่า ช่วงเย็นวานนี้ (7 ธ.ค.) เวลา 17.00 น. ลูกชาย ประสบอุบัติเหตุล้ม ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและศีรษะ ตอนแรกน้องไม่ได้หมดสติ และยังคงร้องด้วยความเจ็บปวด จึงพาลูกชายเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อไปถึง แพทย์พยาบาลเข้ามาดูแล และมีการเขียนใบสั่งยานอนหลับให้ โดยทีมแพทย์ แจ้งว่า ต้องส่งตัวน้องไปเอกซเรย์อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ถ้าให้ยานอนหลับ น้องจะผ่อนคลายและง่ายต่อการตรวจรักษา
ซึ่งระหว่างที่เดินทางไปโรงพยาบาลที่สอง เวลา 18.00 น. ตนเองก็ได้ให้ยากับลูก ซึ่งยาที่ได้มาเป็นลักษณะสลิงความจุกระบอกละ 5 ซีซี รวมกัน 10 ซีซี แต่เมื่อให้ยาลูก ไปแค่ 2 ซีซี ลูกชาย เริ่มมีอาการชัก-สำลัก จนตัวยากระเด็นมาถูกแขนของตนเอง พร้อมรู้สึกแสบร้อนคล้ายถูกกรด แต่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล ก็บอกว่า ให้ตนเองพยายามให้ยาให้หมด และเมื่อฉีดสลิงที่สองเข้าสู่ปากลูก ก็เริ่มมีอาการทุรนทุรายหนักกว่าเดิม ก่อนรีบเคลื่อนย้ายลูกชายตนเองเข้าไปในโรงพยาบาลที่ 2 และเริ่มรักษา จนนำไปสู่การใส่เครื่องช่วยหายใจ
แต่อาการของน้องก็ยังไม่ดีขึ้น (8 ธ.ค.) จึงได้มีการประสานส่งต่อมารักษายังโรงพยาบาลที่ 3 คือ โรงพยาบาลรามาธิบดี พอไปถึง ระหว่างที่ คณะแพทย์เตรียมพาลูกชายเข้าห้องผ่าตัด เพื่อทำการส่องกล้อง ผลปรากฏว่า ทางโรงพยาบาลแรกได้ติดต่อมา สารภาพกับว่า ยาที่ให้กับลูก เป็นยาที่ใช้ภายนอก เป็นยาที่ใช้รักษากัด เนื้อ งอก ผิวหนัง ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด (กรดไตรคลอโรอะซิติก) ไม่สามารถใช้เป็นยารักษาภายในได้ พร้อมชี้แจ้งว่า เภสัชกรที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายยาเกิดความเข้าใจผิด หยิบยาผิดขวด เพราะมีลักษณะขวดที่คล้ายคลึงกันมาให้ จากนั้น โรงพยาบาลก็แบ่งรับแบ่งสู้ อ้างว่า ต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม
แต่ถึงอย่างไร คุณแม่ของน้อง ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า หากเป็นคนในครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร เพราะตนเองเหมือนคนล้มทั้งยืน และยังไม่รู้ว่าภายในของลูกจะได้รับบาดเจ็บเสียหายมากน้อยแค่ไหน
ด้าน นางสาวชลิดา ระบุว่า เบื้องต้นได้ประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งในวันนี้จะมีการมอบหมายให้ทางเลขานุการรัฐมนตรี มาดำเนินการรับเรื่องร้องทุกข์ และทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้อย่างเร่งด่วน รวมถึงหาทางช่วยเหลือเยียวยากับทางผู้เสียหายด้วย
