ตำรวจยึดรถยนต์เช่า ถูกโจรกรรม!! คนร้ายมีการติดตั้งเครื่องบล็อกสัญญาณ GPS ก่อนนำไปขายต่อ

ตำรวจยึดรถยนต์เช่า ถูกโจรกรรม!! คนร้ายมีการติดตั้งเครื่องบล็อกสัญญาณ GPS ก่อนนำไปขายต่อ

View icon 317
วันที่ 9 ธ.ค. 2566 | 09.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจยึดรถยนต์เช่า ถูกโจรกรรม!! คนร้ายมีการติดตั้งเครื่องบล็อกสัญญาณ GPS ก่อนนำไปขายต่อ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันตรวจยึด รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว จำนวน 1 คัน พร้อมอุปกรณ์ JAMMER  (ตัวบล็อกสัญญาณ GPS) จำนวน 1 ชิ้น บริเวณใต้คอนโซนฝั่งที่นั่งคนขับ

พฤติการณ์ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 และ ส.ทล.2 กก.2 บก.ทล. (นครปฐม-เพชรบุรี) ได้รับการประสานจากนายสุทธิกาญจน์ ว่า ตนเองเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทรถเช่าใน จ.นนทบุรี ให้มาดำเนินการประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามรถยนต์ของทางบริษัทฯ ที่ถูกโจรกรรมไป

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 ได้มีนายนัฐวุธ คนร้าย มาขอเช่ารถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว กับ ทางบริษัทฯ โดยมีการทำสัญญาระยะเวลาเช่า 3 วัน (ตั้งแต่วันที่ 4-7 ธ.ค.66) ซึ่งภายหลังจากที่ได้มีการส่งมอบรถยนต์เช่าให้กับนายนัฐวุธ แล้ว ต่อมาในวันที่ 7 ธ.ค.66 ทางบริษัทฯ ตรวจสอบพบว่าสัญญาณ GPS ของรถเช่าคันดังกล่าวได้ขาดหายไป และบริษัทฯ​ ไม่สามารถติดต่อกับนายนัฐวุธ ได้ ทางบริษัทฯ จึงได้ทำการตรวจสอบสัญญาณ Airtag ที่อยู่ในรถเช่าคันดังกล่าว ผ่านแอปฯ โทรศัพท์ พบว่ายังมีสัญญาณการเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ถนนบรมราชชนนีเขตศาลาธรรมสพน์ แขวงทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ทิศทางมุ่งหน้า จ.นครปฐม ทางบริษัทฯ จึงได้ประสานมายังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามรถเช่าคันดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับผู้เสียหาย จึงได้เดินทางไปยังจุดที่พบสัญญาณ GPS ซึ่งอยู่บริเวณชายป่า หมู่ 9 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยเมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าว ได้พบรถเช่าคันดังกล่าวจอดอยู่ โดยมีนายสุรสิทธิ์ แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่

จากการสอบถาม นายสุรสิทธิ์ ให้การว่า ตนเองได้ติดต่อรับรถคันดังกล่าวมาจากนายชัยภัทร ซึ่งเป็นเพื่อนของตนที่รู้จักกันมาประมาณ 10 ปี โดยนายชัยภัทร เป็นผู้รับจำนำรถจากผู้เล่นที่เล่นการพนันเสีย โดยหากว่ารถคันใดไม่มีผู้มาไถ่คืน นายชัยภัทร จะมาเเจ้งให้ตนทราบ หลังจากนั้นตนจะดำเนินการเป็นผู้รับจำนำต่อ ซึ่งเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา นายชัยภัทร ได้ติดต่อมาหาตน โดยแจ้งให้ตนทราบว่านายนัฐวุธ อยากจำนำ รถฟอร์จูนเนอร์ (รถเช่าคันดังกล่าว) ในราคา 520,000 บาท ตนสนใจจึงตกลงรับจำนำรถคันดังกล่าว

โดยนัดรับรถกันในวันที่ 7 ธ.ค.66 ที่บริเวณพื้นที่ มีนบุรี กรุงเทพฯ โดยมีนายนัฐวุธ เป็นผู้นำรถคันดังกล่าวมามอบให้กับตน พร้อมกับกุญแจ 1 ดอก จากนั้นตนจึงได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารชื่อบัญชีนายณพล จำนวน 380,000 บาท และ จำนวน 40,000 บาท ตามที่ได้ตกลงกันไว้ และได้ขับขี่รถคันดังกล่าวกลับมายัง จ.ราชบุรี และนำมาจอดไว้บริเวณชายป่า ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถเช่าคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งนายสุรสิทธิ์ ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่ทางบริษัทฯ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามคืน เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้ให้ นายนัฐวุธ เช่ารถคันดังกล่าวไป แต่เมื่อครบกำหนดเวลาเช่า พบว่าสัญญาณ GPS ได้ขาดหายไป และไม่สามารถติดต่อกับผู้เช่าได้ นอกจากนี้ ยังเเจ้งให้ทราบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อส่งคืนบริษัทต่อไป ซึ่งนายสุรสิทธิ์ ผู้ครอบครองยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าว

จากการตรวจสอบรถเช่าคันดังกล่าวพบว่า มีการติดตั้งเครื่อง JAMMER ซึ่งเป็นตัวบล็อกสัญญาณ GPS จำนวน 1 ชิ้น ที่บริเวณใต้คอนโซนฝั่งที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์ พร้อมนำส่ง รถคันดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า คนร้ายมักจะมีพฤติการณ์ไปติดต่อขอเช่ารถตามบริษัทฯ ให้เช่ารถต่างๆ โดยมีการทำเอกสารปลอม หรือใช้เอกสารหลักฐานของผู้อื่น โดยหลังจากที่คนร้ายได้นำรับรถเช่าไปเเล้ว คนร้ายจะนำอุปกรณ์ JAMMER ซึ่งเป็นตัวบล็อกสัญญาณ GPS ติดไว้ในรถ เพื่อไม่ให้บริษัทรถเช่าติดตามรถกลับคืนได้ และหลังจากนั้นจะนำรถไปขายต่อในราคาถูก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง