Google ประเทศไทยเผยคำค้นยอดนิยมในประจำปี 2566 หรือ Year in Search 2023 คือ เลือกตั้ง 2566 และ คอนเสิร์ตแบล็กพิงก์
Google เผยคำค้นยอดนิยมในประจำปี 2566 วันนี้ (14 ธ.ค.66) Google ประเทศไทย เผยผลคำค้นหายอดนิยมประจำปี 2566 หรือ “Year in Search 2023” ซึ่งเป็นการประมวลภาพรวมที่สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์และพฤติกรรมของคนไทยว่า พบว่า "เลือกตั้ง 2566"เป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุด
ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย Country Marketing Manager Google ประเทศไทย กล่าวว่า “Google Search เป็นช่องทางหนึ่งที่คนไทยจำนวนหลายล้านคนเลือกใช้ในการค้นหาข้อมูล โดยผลเทรนด์การค้นหาในแต่ละปีได้สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่สำคัญและสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เรารู้สึกยินดีที่ได้เห็นว่าคนไทยเลือกใช้ Google ค้นหาเรื่องสำคัญในทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การเลือกตั้ง สถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องสะท้อนถึงความตั้งใจและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนไทย ไปจนถึงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว หาคอร์สเรียนเพื่อเสริมทักษะให้กับตนเอง”
โดยในปีนี้ พบว่าคนไทยมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญในการใช้ Google Search เพื่อค้นหาข่าวและวิธีสำหรับการเลือกตั้งครั้งล่าสุดมาเป็นอันดับต้นๆ รวมไปถึงการค้นหาหลักสูตรการเรียนต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนทักษะและพัฒนาตนเองในสาขาอาชีพต่างๆ อีกทั้งปีนี้ Google Search ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของคนไทยในการค้นหาข้อมูลด้านความบันเทิงที่ตนเองชื่นชอบที่ไม่ว่าจะเป็น ละคร ภาพยนตร์ หรือคอนเสิร์ต
จากคำค้นหายอดนิยมประจำปี 2566 สิ่งที่คนไทยให้ความสนใจมีดังนี้
การเลือกตั้งครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการมีส่วนร่วมทางการเมืองของคนไทยมากยิ่งขึ้น
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 27 ของประเทศไทยที่ผ่านมา มีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับเป็นการเลือกตั้งที่มีความหมายอย่างมากต่อประเทศไทย ซึ่งสิ่งนี้ยังสะท้อนผ่านการค้นหาบน Google ที่พบว่าคนไทยให้ความสนใจข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งและข้อมูลเกี่ยวกับพรรคการเมืองที่ลงรับสมัครเลือกตั้ง โดย 3 ใน 10 ของคำค้นหาในหมวดข่าวในปีนี้ ได้แก่ “เลือกตั้ง 2566” ซึ่งติดโผเป็นอันดับ 1 ส่วน “พรรคก้าวไกล” และ “กกต” ติดโผอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ
ผู้คนใช้ Google Search เพื่อค้นหาวิธีต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตนเองในเหตุการณ์ต่างๆ
คนไทยมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญต่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากการค้นหาในหมวดข่าวข้างต้นแล้ว คนไทยยังเข้ามาค้นหา “วิธี” ต่างๆ บน Google โดยในหมวดวิธี มีคำค้นค้นหา “เลือกตั้งล่วงหน้าทำอย่างไร” และ “เลือกตั้งนอกเขตทำอย่างไร” ติดโผอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ส่วน “บัตรประชาชนหายทำอย่างไร” “ใบขับขี่หายทำอย่างไร” “เป็นโควิดทำอย่างไร” และ “IF ทำอย่างไร” ติดอันดับ 3-6 ตามลำดับในปีนี้
Google Search เป็นช่องทางที่คนไทยใช้ค้นหาเพื่อพัฒนาทักษะตนเอง
ในปีนี้ คนไทยยังคงให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างทักษะตนเองผ่านคอร์สเรียนต่างๆ ทั้งเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถและเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ โดยคำค้นหายอดนิยมประจำปีนี้ในหมวดคอร์สเรียน ได้แก่ “คอร์สเรียนภาษาจีน” “คอร์สเรียน Python” “คอร์สเรียน Data Analytics ฟรี” “คอร์สอนามัยออนไลน์” “คอร์สเรียนบัญชีระยะสั้น”
นอกจากนี้ หลักสูตรเพื่อเสริมสร้างทักษะอื่นๆ เช่น “คอร์ส IELTS ออนไลน์” และ “คอร์สเรียน TOEIC ฟรี” ในการช่วยวัดระดับความรู้ด้านภาษาอังกฤษที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการไปเรียนต่อหรือทำงานในต่างประเทศก็ติดอันดับคำค้นหายอดนิยมในหมวดคอร์สเรียนในปีนี้ด้วยเช่นกัน
การค้นหาเพื่อความบันเทิงและผ่อนคลายยังคงได้รับความนิยมบน Google Search
ด้านความบันเทิง คอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรีต่างๆ กลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คำค้นหาอย่าง “คอนเสิร์ต” ในปีนี้โตขึ้นถึง 39% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในปีนี้ คำค้นหายอดนิยมอันดับ 1 ในหมวดคอนเสิร์ต คือ “คอนเสิร์ตแบล็กพิงก์” ซึ่งตอกย้ำถึงความนิยมของ BLACKPINK กับการเป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปที่ถูกค้นหาบน Google มากที่สุดตลอดกาล ด้าน “คอนเสิร์ตทรีแมนดาว” “คอนเสิร์ตยังโอม” “คอนเสิร์ตแบมแบม” และ “คอนเสิร์ตเทรเชอร์” ติดโผในอันดับ 2-5 ตามลำดับ
ด้านความบันเทิงอีกหนึ่งรูปแบบ นั่นคือ การชมภาพยนตร์ และในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพลิกโฉมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่สามารถดึงดูดผู้ชมชาวไทยได้อย่างท่วมท้น โดยมีคำค้นหาในหมวดภาพยนตร์ เป็นภาพยนตร์ไทยมากถึง 7 เรื่อง ทั้งที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์และบนแอปพลิเคชัน โดยอันดับ 1 คือเรื่อง “สัปเหร่อ” นอกจากนี้ยังมี “ธี่หยด” “ขุนพันธ์ 3” “บ้านเช่าบูชายัญ” “ไทบ้าน เดอะ ซีรีส์” “เธอกับฉันกับฉัน” และ “เรื่องตลก 69”
คนไทยวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในปีนี้จึงได้เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยการค้นหายอดนิยมหมวดสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ ในปีนี้มีทั้งจังหวัดและเมืองยอดฮิตต่างๆ โดย “กรุงเทพมหานคร” ครองอันดับ 1 สองปีซ้อนจากปีที่แล้ว ตามมาด้วย “เกาะกระดาน” “ชลบุรี” “หัวหิน ชะอำ” และ “กาญจนบุรี” ในอันดับ 2-5 ตามลำดับ ส่วนหมวดสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศยอดนิยมยังคงเป็นสถานที่ในแถบเอเชียเช่นเคย และปีนี้ “ไต้หวัน” ติดโผอันดับ 1 ตามมาด้วย “ฮ่องกง” “ญี่ปุ่น” “เวียดนาม” และ “มาเลเซีย” ในอันดับ 2-5 ตามลำดับ