อัปเดตสายพันธุ์โควิด XBB.1.9.2* มีสัดส่วนมากสุด เข้าสู่ฤดูหนาวมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

อัปเดตสายพันธุ์โควิด XBB.1.9.2* มีสัดส่วนมากสุด เข้าสู่ฤดูหนาวมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

View icon 125
วันที่ 15 ธ.ค. 2566 | 11.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กรมวิทย์ฯ อัปเดตสายพันธุ์โควิด ในไทย XBB.1.9.2* มีสัดส่วนมากที่สุด 24.5% เข้าสู่ฤดูหนาวมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แนะอย่าเชื่อโพสต์ว่อนโซเชียล เตรียมพร้อมรับมือโควิดระลอกใหม่ XBB.1.16* “อาร์คตูรุส” อาการใหม่ ไม่มีไข้ ตาแดง ผื่นขึ้น น้ำมูกไหล ไม่เป็นความจริง

อัปเดตสายพันธุ์โควิด (15 ธ.ค.66) นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 และสายพันธุ์ที่เฝ้าติดตามในประเทศไทย ว่า ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.66 ถึง 2 ธ.ค.66 จากการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด 19 จำนวน 253 ราย พบสายพันธุ์ XBB.1.9.2* มีสัดส่วนมากที่สุด คิดเป็น 24.5% ถัดมาคือ EG.5* , XBB.1.16* และ XBB.2.3 โดยพบสัดส่วน 23.3%, 17.80% และ 11.90% ตามลำดับ

สถานการณ์โดยรวมของประเทศไทยในปัจจุบัน พบว่า สัดส่วนของสายพันธุ์ EG.5* และ XBB.1.92* มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่สัดส่วนของสายพันธุ์ XBB.1.16* กับ XBB.2.3* มีแนวโน้มลดลง เมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนก่อนหน้า

นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า กรณีมีการแชร์และส่งต่อข้อมูลในโซเชียลมีเดีย ว่า เตรียมพร้อมรับมือโควิด 19 ระลอกใหม่สายพันธุ์ XBB.1.16* “อาร์คตูรุส” อาการใหม่ ไม่มีไข้ ตาแดง มีผื่นขึ้น หรือน้ำมูกไหล นั้น จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลสายพันธุ์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระหว่างเดือน ก.ย.-พ.ย.66 พบเป็น สายพันธุ์ XBB.1.16* จำนวน 83 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 16.4 จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง

และข้อมูลลักษณะอาการทางคลินิกจากประวัติ ที่ผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2  สายพันธุ์ XBB.1.16* พบว่า ส่วนใหญ่กว่า ร้อยละ 90 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก เสมหะ ปวดเมื่อย บางรายประมาณร้อยละ 10 มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย/หอบ ร่วมด้วย ไม่พบลักษณะอาการตาแดง มีผื่นขึ้น หรือน้ำมูกไหล

สำหรับช่วงนี้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนๆ เล็กน้อย เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่จะพบผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น ซึ่งการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ยังคงเป็นมาตรการการป้องกันที่ได้ผลดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง