สนามข่าว 7 สี - คดี "หมวดนัท" ยิงนักธุรกิจหนุ่มนายจ้างเสียชีวิตบนทางด่วน ดูท่าน่าจะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ บันดาลโทสะ จึงก่อเหตุขึ้น สุดท้ายตอนนี้ "หมวดนัท" ก็คอตกเข้าเรือนจำฯ หมดอนาคต
ก่อนอื่นเราไปไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ภาพวงจรปิดบนทางด่วนฉลองรัช เหนือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงใกล้แยกประชาธรรม ที่เราได้มาเห็นชัดว่าช่วงที่เกิดเหตุ รถตู้สีดำที่มี ร้อยตำรวจโท ณรงค์วัส ทะชาดา รองสารวัตรสอบสวน สน.หัวหมาก หรือ "หมวดนัท" เป็นคนขับ และมีนายกฤษฏิ์ ศรุวรานนต์ นักธุรกิจหนุ่มผู้ตาย นั่งอยู่ด้านหลัง จู่ ๆ รถก็ชะลอจากเลนกลางแล้ววิ่งเข้าเลนซ้าย ก่อนจะชนเข้ากับแบร์ริเออร์ปูนริมถนน ช่วงนี้ทั้ง 2 คน น่าจะโต้เถียงอย่างรุนแรง ซึ่งจากปากคำของหมวดนัท ระบุว่ามีปากเสียงกัน จึงใช้อาวุธปืนยิงขาผู้ตาย ก่อนบังคับให้โอนเงินจำนวน 20 ล้านบาท แต่ผู้ตายไม่ยอม จึงเกิดการยื้อแย่งอาวุธปืน
จากนั้นได้ล็อกคอลากผู้ตายลงจากรถ สักครู่ก็มีรถของพลเมืองดีขับเข้ามาจะช่วยเหลือ แต่พอเห็นปืนและยื้อยุดทำร้ายกัน เลยขับออกไปจอดด้านหน้า หมวดนัทยังลากผู้ตายไปทำร้ายต่อที่หน้ารถ
ช่วงนี้ก็มีรถของเจ้าหน้าที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งมากัน 2 คน เปิดไฟวาบขับเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ มีรถตู้ฮุนได เอช 1 สีดำ ทะเบียนป้ายแดง จอดเสียหลักชนขอบสะพานทางด่วน มีชาย 2 คน ทะเลาะวิวาทชกต่อยกันข้างรถ โดยผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายนอนอยู่บนพื้นถนน จากนั้นมีชายผู้ก่อเหตุจึงขึ้นไปนั่งคร่อม ในมือขวาถือปืน เมื่อเจ้าหน้าที่การทางพิเศษเห็นปืน จึงถอยออกมา ต่อมาได้ยินเสียงปืน 2 นัด
จากนั้นผู้ก่อเหตุขึ้นไปขับรถตู้หนีไป เจ้าหน้าที่การทางพิเศษฯ จึงเข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บ โดยชายที่ถูกยิง ขอให้โทรหาภรรยาและพูดคุยด้วยตัวเองว่าถูกยิง บอกให้ภรรยาพาลูกหลบหนีออกจากบ้านพัก กลัวคนร้ายตามไปยิง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ก่อเหตุที่ขับรถหลบหนีไป ได้วนรถกลับมาจอดบนทางด่วนฝั่งตรงข้าม แล้วถือปืนลงมาจากรถ และกระโดดข้ามแบร์ริเออร์กั้นเกาะกลางมาหาคนเจ็บ เจ้าหน้าที่การทางพิเศษกับเพื่อนจึงหลบเข้าไปอยู่ในรถ และได้เห็นชายคนร้ายใช้ปืนจ่อยิงคนเจ็บอีกหลายนัด และรีบวิ่งกลับไปที่รถตู้ขับหลบหนีไป
ตำรวจใช้เวลา 6 ชั่วโมง ตามจับหมวดนัท ได้ที่ห้องพักรายวันย่านดอนเมือง พร้อมรถตู้ของผู้ตาย เมื่อนำตัวมาสอบปากคำ
หมวดนัท ให้การว่ารู้จักกับ นายกฤษฎิ์ ผู้ตาย เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผู้ตายเข้ามาแจ้งความที่ สน.หัวหมาก ว่าธุรกิจถูกฉ้อโกง ระหว่างทำคดีให้กันในฐานะพนักงานสอบสวน นายกฤษฎิ์ ก็เอ่ยปากชักชวนให้มาทำงานพิเศษ เป็นคนขับรถส่วนตัวและรักษาความปลอดภัย แลกกับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท
เมื่อสนิทสนมกันในฐานะนายจ้างกับลูกจ้าง หมวดนัทจึงปรึกษาปัญหาส่วนตัว เรื่องมีหนี้สินในระบบ 2 ล้านบาท จากการไปกู้เงินมาลงทุนทำธุรกิจ โดยตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับ นายกฤษฎิ์ มานาน 5 เดือน ก็ให้ความหวังว่าจะช่วยเคลียร์หนี้สิน และยังรับปากจะช่วยวิ่งเต้นเรื่องโยกย้ายตำแหน่งให้ จนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย และก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนผู้ตายถูกยิงไปทั้งหมด 5 นัด ที่กลางหน้าผาก 2 นัด นิ้วชี้มือขวา 1 นัด ใต้ท้องแขนขวา 1 นัด และขาขวา 1 นัด
จากการตรวจสอบประวัติของผู้ตายเบื้องต้น ยังไม่พบว่าพัวพันกับการทำธุรกิจสีเทา แต่ก็ทราบข้อมูลว่า ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการเป็นนายหน้าซื้อขายให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เปิดบริษัทจัดหานักสืบ เป็นที่ปรึกษากฎหมาย และจัดหาทนายความชำนาญเฉพาะทางให้ลูกค้า ภายใต้ชื่อ บริษัท วรานนท์ ลอว์ เรียลเอสเตท (2007) จำกัด
ส่วน หมวดนัท วานนี้ถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนโดยใช่เหตุ เป็นเวลา 12 วัน
โดยระหว่างที่นำตัวไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประกบซ้ายขวา นำไปขึ้นรถคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยามยามตะโกนถามหมวดนัทว่า อยากขอโทษผู้เสียชีวิตหรือไม่, ที่อ้างว่าโดนหลอกใช้ โดนหลอกอย่างไรบ้าง ?, เครียดไหม ?
ด้าน หมวดนัท ตอบสั้น ๆ ว่า "ขอโทษ" ก่อนที่รถควบคุมตัวจะนำตัวไปฝากขัง โดยไม่มีญาติของหมวดนัทไปยื่นประกันตัว ศาลอาญาพิจารณาคำร้องแล้ว อนุญาตให้ฝากขัง ก่อนนำตัวไปตวบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร