สนามข่าว 7 สี - กรณีเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ดื่มน้ำยาล้างเครื่องเงิน ซึ่งมีส่วนผสมของไซยาไนด์ สุดท้ายเด็กหมดสติทันที เคราะห์ดีที่ทีมแพทย์โรงพยาบาลขุนยวม โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี มีไหวพริบดี และคำนวณเวลาแม่นยำ จึงสามารถช่วยชีวิตเด็กหญิงได้ในที่สุด
โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 มกราคา 2567 ที่ผ่านมา ทางนายแพทย์สมศักดิ์ อุทัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปเยี่ยม เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ ที่ห้องพักผู้ป่วย ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ ในพื้นที่ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่าหนูน้อยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถรับประทานอาหาร และพูดโต้ตอบได้แล้ว โดยทางแม่เด็กได้กล่าวขอบคุณทีมแพทย์ที่ช่วยเหลือ แม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิด แต่แพทย์ทุกคนทำเต็มที่มาก ๆ
ขณะที่ เภสัชกร ทรงศักดิ์ กุณฑลกิติเดช เภสัชกรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมโรงพยาบาลศรีสังวาลแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สำหรับยาต้านพิษไซยาไนด์ ก็จะต้องเบิกกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สปสช. มาให้โรงพยาบาลของแต่ละจังหวัด เพื่อไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งขั้นตอนการเก็บรักษานั้น จะต้องนำมาตรวจสอบว่ายามีสภาพพร้อมใช้หรือไม่ หรือหมดอายุเมื่อใด ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติเสมือนยาทั่วไป
สำหรับยาต้านพิษไซยาไนด์ที่เก็บไว้มี 2 แบบ คือ โซเดียมไนไตรท์ (Sodium nitrite) และโซเดียมไทโอซัลเฟต (Sodium thiosulfate) อย่างละ 10 ขวด ซึ่งการนำออกไปใช้ จะต้องให้แพทย์สาขาเฉพาะทาง หรือสาขาที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สั่งเท่านั้น
ขณะเดียวกันคณะกรรมการอาหารและยา ได้บรรจุให้ยาโซเดียม ไทโอซัลเฟต อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นยาแก้พิษไซยาไนด์ และใช้เป็นยาทารักษาโรคเชื้อราที่ผิวหนัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้ยาดังกล่าวก็จะต้องถูกสั่งโดยแพทย์เท่านั้น
