“สมศักดิ์” จ่อฟ้อง “ศรีสุวรรณ” กล่าวหาเอื้อทุจริตเช่ากำไลอีเอ็ม ยันไม่มีล็อกสเปก ไม่ได้ล็อบบี้ใคร

“สมศักดิ์” จ่อฟ้อง “ศรีสุวรรณ” กล่าวหาเอื้อทุจริตเช่ากำไลอีเอ็ม ยันไม่มีล็อกสเปก ไม่ได้ล็อบบี้ใคร

View icon 74
วันที่ 15 ม.ค. 2567 | 15.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ศรีสุวรรณ” งานเข้า “สมศักดิ์” จ่อฟ้อง หลังยื่น กมธ. สภาฯ สอบสมัยเป็น “รมว.ยุติธรรม” เอื้อเอกชนทุจริตคอร์รัปชันโครงการเช่ากำไล EM มูลค่า 1,600 ล้านบาท

กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน  สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันโครงการเช่ากำไล EM ของกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม สมัยที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน มูลค่า 1,600 ล้านบาท

ล่าสุด (15 ม.ค.67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ชื่นชมนายศรีสุวรรณเป็นนักร้องเรียนที่มีผลงาน แต่ในประเด็นนี้คงได้รับข้อมูลมาไม่ครบ ที่กล่าวหาว่าตนเองปล่อยปละละเลย ทุจริตกันตั้งแต่ต้นน้ำนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริง รัฐมนตรีไม่มีอำนาจในการเซ็นหรือสั่งให้ใครเซ็นผ่านอะไรได้ ตนเองทำได้เพียงมอบนโยบาย ว่าการเช่ากำไลอีเอ็ม เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และ ไม่เคยมีการปล่อยปละละเลย เพราะได้ย้ำแล้วย้ำอีก ตั้งแต่ ระดับกรม จนถึง กระทรวง ว่าให้ตรวจสอบก่อนทำสัญญาให้ดี เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินงบประมาณ แต่สุดท้ายก็ไม่พบความผิดหรือจุดบกพร่องใด ดังนั้นทางส่วนราชการจึงเดินหน้า

ส่วนที่กล่าวหาว่า มีการวิ่งเต้นล็อบบี้ให้อนุมัติสัญญาจ้างนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีการวิ่งเต้น เพราะกรมคุมประพฤติ ได้เข้าชี้แจงกรรมาธิการติดตามงบประมาณ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกรรมาธิการฯ ก็ไม่ได้มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หลังจากชี้แจงเสร็จสิ้นแล้ว จึงถือได้ว่า โครงการนี้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปด้วยความปกติ ตามกรอบของกฎหมาย ส่วนสเปกของกำไลอีเอ็ม ขอยืนยันว่า ไม่ได้ล้าสมัย เพราะได้ผ่านการพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ระดับกระทรวง และกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ภาครัฐแล้ว รวมถึงได้มีหน่วยงานที่ใช้กำไลอีเอ็มอยู่แล้ว คือ สำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งมีผลการใช้งานเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ ยังได้มีการศึกษาเปรียบเทียบจากต่างประเทศ เช่น อิสราเอล เกาหลี สหรัฐฯ ด้วย

“ไม่สามารถล็อกสเปก เพื่อช่วยเหลือใครได้ เพราะว่าสเปกถูกกำหนด โดยกรรมการและนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และยังต้องประกาศให้สาธารณชนทราบ รวมถึงกฎหมายกำหนดให้สเปกต้องมีบริษัทสามารถเข้าร่วมแข่งขันอย่างน้อย 3 บริษัท จึงไม่สามารถมีการล็อกสเปกตามที่กล่าวหาได้ พร้อมขอยืนยันว่า มีการเปิดโอกาสให้มีการปรับแก้สเปกของกำไลอีเอ็มอย่างเต็มที่ เพราะได้มีการประกาศเชิญชวน และเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอน ผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาศึกษาและมีการวิจารณ์ แนะนำ ท้วงติง เกี่ยวกับคุณสมบัติ ซึ่งกฎหมายก็กำหนดให้ต้องมีการนำมาพิจารณาร่วมอยู่แล้ว รวมถึงตัวอุปกรณ์ต้องมีการแข่งขันไม่น้อยกว่า 3 ผลิตภัณฑ์ จึงไม่ใช่เป็นการปิดโอกาสในการแก้สเปกแต่อย่างใด”  นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังข้อสังเกตว่า การร้องครั้งนี้มีอะไรแอบแฝงหรือไม่ เพราะอุปกรณ์ของกระทรวงยุติธรรม ก็คล้ายของศาลฯ แต่มีการพุ่งเป้าร้องเพียงหน่วยงานเดียว และ ข้อกล่าวหาที่ยื่นกรรมาธิการฯ ก็กล่าวหาแบบเลื่อนลอย ซึ่งเน้นใช้วาทกรรม เพื่อให้ดูน่าสนใจเท่านั้น แต่ข้อเท็จจริง ตนเองขอยืนยันว่า เป็นไปตามข้อกฎหมายทั้งหมด โดยจากนี้ ตนต้องขอใช้สิทธิตามกฎหมาย ซึ่งได้มอบให้ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินการต่อไป