เฉลิมชัย ฉะ ขบวนการทางการเมือง ดิสเครดิต หมูเถื่อน-ตีนไก่ ลั่น ไม่รับเงินสกปรก

เฉลิมชัย ฉะ ขบวนการทางการเมือง ดิสเครดิต หมูเถื่อน-ตีนไก่ ลั่น ไม่รับเงินสกปรก

View icon 188
วันที่ 16 ม.ค. 2567 | 12.36 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"เสี่ยต่อ" ฉะเดือด ขบวนการทางการเมือง ดิสเครดิต หมูเถื่อน-ตีนไก่ ลั่น ไม่รับเงินสกปรก ยันมอบหมาย “ประภัตร” ดูแลกรมปศุสัตว์ แจงภาพไปจีน ถูกเชิญพูดเรื่องลงทุน ไม่ได้ไปพร้อมเฮียเก้า ขู่ ฟ้องกลับ หากทำเสียหายอีก

วันนี้ (16 ม.ค.67) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกรรมการบริหารพรรค และ สส. ชี้แจงกรณี ที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ ทั้งคดีหมูเถื่อน และ ส่งออกตีนไก่สวมสิทธิ์ โดยนายเฉลิมชัย เผยว่า มีการสร้างหลายประเด็นเพื่อเชื่อมโยงตนเอง สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนตัวมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากผลทางการเมือง เห็นได้ชัดจากการดำเนินการต่อเนื่อง ทำกันเป็นขบวนการ ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าตนเข้าร่วมในการกระทำความผิดด้วย วันนี้ตนเองเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคก็เพื่อให้พรรคเดินหน้าไปด้วยความใสสะอาด ถ้าเล่นการเมืองสกปรกแบบนี้ อย่าเล่นเลย กฎแห่งกรรมมีจริง แต่ไม่รู้ว่าคนทำต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆ ตนเองเสียชื่อเสียงไปแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล สส.พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ จะเกี่ยวข้องกับชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หรือไม่ขอไม่ก้าวล่วง ส่วนตัวยังไม่ทราบว่าคนบนชั้น 14 มีอาการเป็นอย่างไร

ย้อนไปเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบอำนาจให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ ดำเนินการเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละคน โดยเฉพาะกรมปศุสัตว์ อยู่ในอำนาจความรับผิดชอบของนายประภัตร โพธสุธน ซึ่งตนเองไม่เข้าไปก้าวก่าย ยกเว้นเรื่องงบประมาณ นโยบาย และเรื่องที่คณะรัฐมนตรีกำหนด สำหรับการพิจารณาข้าราชการเป็นไปตามลำดับชั้นของการบังคับบัญชา แต่เมื่อปัญหาเกิดขึ้น ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ และจนถึงตอนนี้ ก็ไม่ได้คุยกับนายประภัตร

เรื่องหมูที่เข้าไปดูแล ก็คือในช่วงที่มีโรค  Asf ระบาดในหมู ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เมื่อครั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงไม่สามารถมอบหมายต่อให้รัฐมนตรีช่วยดำเนินการได้ เพราะเป็นคณะกรรมการระดับประเทศ กระทั่งปี 2565 ตนกำชับและดูแลอย่างใกล้ชิดและดำเนินการจับกุม ทำลาย นับล้านกิโลกรัม พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยว กำชับ จับกุม ปราบปรามขบวนการหมูเถื่อน โดยมีกรมปศุสัตว์ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งตนเองไม่สามารถมอบหมายให้ใครดูแลได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งและนโยบาย

อย่างไรก็ตาม ตนเองและครอบครัวไม่ทำเรื่องสกปรกโสโครก ไม่เคยรับเงินจากสิ่งเหล่านี้แม้สักบาทเดียว ไม่มีนอมินีรับเงิน  ไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้ใคร ยืนยันหากคนในครอบครัวทำผิดก็ไม่ปกป้องอย่างแน่นอน โดยขอให้สังคมฟังเหตุและผลที่มาที่ไปของเรื่องนี้ด้วย ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และผู้มีอำนาจก็ต้องดำเนินการเด็ดขาด ส่วนคนรอบข้างที่ถูกกล่าวหาว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว และเป็นหน้าที่ต้องพิสูจน์ความจริง

ส่วนที่เสนอข่าว มีอดีตรัฐมนตรีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวด้วย ขอให้ระบุชื่อให้ชัดเจน และเลิกพฤติกรรมเหล่านี้ เพราะกว่าความจริงจะปรากฏก็ได้รับความเสียหายไปแล้ว

นายเฉลิมชัย ยังเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากพบใครทำผิด ก็ต้องนำมาดำเนินคดีอย่างที่สุด และเป็นกำลังใจให้ข้าราชการดีๆ ทำหน้าที่ต่อไป ส่วนที่บอกว่ามีไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง ให้เอาชื่อออกมาเปิดเผยได้เลย ตนจะทำอย่างเต็มที่ ช่วยให้ความจริงปรากฎ เพื่อประเทศชาติ ทั้งนี้ เมื่อความจริงปรากฏ จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวนจะต้องทำให้เกิดความชัดเจน

นายเฉลิมชัย ได้ชี้แจงกรณีมีภาพตัวเองพร้อมกับนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค และ สส.พรรค เดินทางไปประเทศจีนเพื่อพบกับ ประธานหอการค้าและประธานรัฐวิสาหกิจจีน โดยในภาพดังกล่าว มีนายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย-เอเชีย ร่วมเฟรมอยู่ด้วย ยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางไปด้วยกัน ทางจีนต่างคนต่างเชิญ และเฮียก้าวก็เดินทางไปในฐานะนายกสมาคมการค้าฯ ซึ่งรู้จักกับนักธุรกิจจีนเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ส่วนตนได้รับเชิญไปพูดคุยเรื่องการลงทุนที่จังหวัดระยอง ดังนั้น ขอให้คนที่อ้างตัวว่าสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ แต่นำประเด็นนี้มามาบิดเบือนด้วยความไม่รู้และวิพากษ์วิจารณ์เป็นการกระทำที่กำลังทำลายความสัมพันธ์ และการลงทุนระหว่างประเทศ ฝากไปถึงรัฐบาลให้ดำเนินการติดตามบุคคลดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่เคยปฏิเสธ ความเป็นญาติระหว่างตนเองกับเฮียเก้า แต่ไม่ได้เป็นลูกพ่อเดียวกัน พร้อมฝากไปถึงสื่อมวลชนที่กำลังตามเรื่องอยู่ ขอให้นำเสนอความจริงให้ประชาชนได้รับรับทราบ หากพบว่ายังมีการกระทำที่ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก ก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน