คนไทยไม่ใช่เมียนมา ผบก.ภ.จว.เชียงราย คาด 2 วันได้ตัว ผู้ต้องหาหนีจากโรงพักเชียงราย พร้อมจ่อตั้ง กก.สอบปมบกพร่อง
ความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหาหลบหนีการควบคุมตัวของ สภ.เมืองเชียงราย ล่าสุด วันนี้ ( 22 ม.ค. 67) พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย แถลงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ม.ค.67 ร.ต.ท. นภพล งามเอนก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เจ้าของคดีอาญาที่ 86/2567 ได้รับตัว นายจะลอ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งขณะนั้นเชื่อว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้ต่างด้าวพ้นจากการจับกุม และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" มาควบคุมตัวไว้ระหว่างการสอบสวน
กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. พนักงานสอบสวนได้เบิกตัวผู้ต้องหาจากห้องขัง เพื่อสอบปากคำ ระหว่างเบิกตัวมีประชาชนเข้ามาแจ้งความ จึงหันเหไปปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งความ และสั่งให้สิบเวรนำตัวผู้ต้องหาใส่กุญแจมือ พาตัวไปที่ห้องสอบสวนและเฝ้าตัวไว้จนกว่าจะรับแจ้งความเสร็จ และจะไปสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ปรากฎว่าเมื่อเวลาประมาณ 18.11 น. ได้เดินกลับที่ห้องสอบปากคำปรากฏว่าไม่พบตัวผู้ต้องหา สอบถามเจ้าหน้าที่สิบเวรได้แจ้งว่านำตัวผู้ต้องหาไปที่ห้องสอบปากคำแล้ว แต่ไม่ได้เฝ้าไว้ เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นายจะลอ ผู้ต้องหา ได้ถูกสวมใส่กุญแจมือไว้ และเดินออกมาจากห้องสอบปากคำหลบหนีออกไปจาก สภ.เมืองเชียงราย
เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้กระจายกำลังกันออกสืบสวนติดตาม ซึ่งจากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า นายจะลอ แท้จริงแล้วเป็นบุคคลสัญชาติไทยชื่อ นายดิษฐ์ และจากการตรวจสอบภาพใบหน้าจากระบบทะเบียนราษฎร Bio matrix ข้อมูลจาก Facebook และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่านายดิษฐ์ เคยถูกจับกุมในข้อหา "ลักทรัพย์ ในเคหะสถาน” ตามคดีที่ 140/60 ของ สภ.แม่ยาว และ ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน" ตามคดีที่ 402/57 ของ สภ.พญาเม็งราย
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนประกอบด้วย งานสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย, กก.สส.ภ.จว.เชียงราย และ บก.สส.ภ.5 สนธิกำลังกันออกติตตามโดยใช้ข้อมูลทางการข่าวที่แจ้งว่า คาดว่าน่าจะหลบหนีไปกบดานในพื้นที่บนดอย บ้านจะคือ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลบางส่วนจากบุคคลใกล้ชิดแล้ว ในคดีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่สื่อสารกันให้ชัดเจน จนทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ อย่างไรก็ตาม จะมีการตั้งคณะกรรมการ เพื่อสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางวินัย ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ในส่วนของคดี ก็จะต้องเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปมาดำเนินคดีให้ได้ เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถติดตามจับกุมกลับมาได้ภายใน 1-2 วันนี้