สนามข่าว 7 สี - ส่วนความคืบหน้าคดีฆ่าเศรษฐินี ทายาทตระกูลดังจังหวัดจันทบุรี นำศพทิ้งอำพรางในสระน้ำสวนหลังบ้าน ล่าสุดตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้แล้ว เบื้องต้นยอมรับสารภาพก่อเหตุเพราะต้องการล้างหนี้
หลังมีญาติไปพบศพ นางสาวปนิฐิ โกศลานันท์ อายุ 77 ปี หรือ "เจ๊ม่วย" เศรษฐินีเมืองจันทบุรี ถูกฆ่าและนำศพไปทิ้งอำพรางไว้ในสระน้ำสวนหลังบ้าน ในอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา สภาพศพซี่โครงหักหลายซี่ ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้ตำรวจเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม หลังพบว่าเซิร์ฟเวอร์ภายในบ้านและเอกสารเงินกู้บางฉบับหายไป อีกทั้งในบ้านไม่พบร่องรอยการรื้อค้น หรือทรัพย์สินมีค่าสูญหายไป จึงได้เรียกญาติและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน ส่วนปมการก่อเหตุหลัก ๆ ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ การฆ่าล้างหนี้ และปมเรื่องมรดกระหว่างเครือญาติ ที่เคยขัดแย้งกันก่อนหน้านี้
ผู้ต้องสงสัยมีด้วยกันหลายคน แต่หนึ่งในนั้น คือ นายกฤษ ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่ชุดสืบสวน สภ.มะขาม ได้คุมตัวมาสอบสวน ตั้งแต่วันพุธที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา มีการสอบเค้นอย่างหนักตลอดทั้งคืน จนสุดท้ายยอมเปิดปากรับสารภาพ โดยอ้างว่าถูก นางสมสุดา หรือเจ๊ปุ้ย หลอกให้ไปร่วมฆ่าเจ๊ม่วย พร้อมกับชายอีกคน ที่ขณะก่อเหตุสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า จึงไม่ทราบว่าเป็นใคร
ต่อมาตำรวจได้คุมตัว นายกฤษ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่ นายกฤษ พร้อมเจ๊ปุ้ย ขี่รถจักรยานยนต์ตามเจ๊ม่วยมาถึงหน้าบ้าน เมื่อเห็นว่าประตูรั้วบ้านเปิดอยู่ เจ๊ปุ้ยจึงได้เดินตามเข้าไป ส่วน นายกฤษ จอดรถรออยู่หน้าบ้าน ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร จากนั้นประมาณ 20 นาที เจ๊ปุ้ยก็ออกมาเรียกให้เข้าไป เมื่อไปถึงก็พบว่า เจ๊ม่วยเสียชีวิตอยู่ในห้องโถงชั้นล่างแล้ว เจ๊ปุ้ยจึงสั่งให้ถอดเซิร์ฟเวอร์ในบ้านทั้งหมด เพื่อนำไปทำลายหลักฐาน
โดย นายกฤษ ยังอ้างอีกว่า เมื่อตนเดินขึ้นไปบนชั้น 2 และเดินลงมาที่ชั้นล่าง ได้พบชายสวมโม่งอีกคนเข้ามาร่วมก่อเหตุด้วย โดย เจ๊ปุ้ย ได้ให้ตนเองและชายสวมไอ้โม่ง ช่วยกันอุ้มร่างเจ๊ม่วยออกมานอกบ้าน จากนั้นชายที่สวมไอ้โม่งก็ยกผู้ตายขึ้นบ่าเดินเข้าไปในสวน โดยมีเจ๊ปุ้ยถือไฟฉายส่องนำทางให้ ส่วนตัวเองรออยู่ที่บ้าน ไม่ได้ตามไปด้วย จึงไม่รู้ว่าทั้งสองคนนำร่างผู้เสียชีวิตไปทิ้งสระน้ำ
นอกจากนี้ ตำรวจได้ประสานนักประดาน้ำลงไปงมหาเซิร์ฟเวอร์ ภายในสระน้ำหลังบ้าน และบริเวณบ้านของอดีตสามีเจ๊ปุ้ย เบื้องต้นพบเซิร์ฟเวอร์ถูกทิ้งอยู่ในสระน้ำจริงตามการสันนิษฐานของตำรวจ จึงนำส่งให้เจ้าหน้าที่ไปกู้ภาพ เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป
ขณะที่ เจ๊ปุ้ย ผู้สั่งการ เบื้องต้นชุดสืบสวน สภ.เขมราฐ ตามไปจับตัวไว้ได้ที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ขณะกำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง เบื้องต้น เจ๊ปุ้ย ปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า แต่คนที่ลงมือฆ่านั้น คือ นายกฤษ นั่นเอง
เจ๊ปุ้ย ยังอ้างด้วยว่า ที่เดินทางไปบ้านเจ๊ม่วย เพื่อต้องการไปเคลียร์ปัญหา ที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมกันปล่อยเงินกู้ด้วยกันเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา โดย เจ๊ม่วย ได้นำโฉนดที่ดินหลายแปลงไปจำนอง แต่ต่อมาไม่สามารถเก็บเงินกู้ได้ เจ๊ม่วยจึงให้ตนรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นคนค้ำประกัน จนเกิดความเครียดชวนหลานชายมาฆ่าเพื่อต้องการล้างหนี้
อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันนี้ (26 ม.ค.) ชุดสืบสวน สภ.เขมราฐ จะคุมตัว เจ๊ปุ้ย มามอบให้กับตำรวจ สภ.มะขาม เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ช่วยซ่อนเร้น หรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนของศพ เพื่อปิดบังสาเหตุแห่งการตาย และวันนี้ พลตำรวจโท สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะเดินทางมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง
