"ธรรมนัส" เปิดปฏิบัติการไล่ลา "ปลาหมอสีคางดำ" Kick Off 5 จังหวัด แก้ปัญหาระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ

"ธรรมนัส" เปิดปฏิบัติการไล่ลา "ปลาหมอสีคางดำ" Kick Off 5 จังหวัด แก้ปัญหาระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ

View icon 158
วันที่ 3 ก.พ. 2567 | 09.20 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"ปลาหมอสีคางดำ" เป็นปลาต่างถิ่น ไม่มีพิษ แต่กินลูกสัตว์น้ำน้อยใหญ่ ทำลายระบบนิเวศ ต้องเร่งกำจัด

วันนี้ (3 ก.พ.67) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดปฏิบัติการนโยบายแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ด้วยการมอบธงสัญลักษณ์ และ ปล่อยขบวนเรือชาวประมงออกปฏิบัติการ 23 ลำในแม่น้ำท่าจีน และปล่อยพันธุ์ปลากระพงขาว 60,000 ตัวพร้อมกันในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด โดยปัญหาปลาหมอสีคางดำ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงชาวประมงได้รับผลกระทบจากการระบาดเข้าไปในบ่อเลี้ยงปลา

กรมประมง ได้กำหนดมาตรการระยะเร่งด่วน สร้างการรับรู้ด้วยการ Kick Off ใน 5 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ เพชรบุรี และกรุงเทพมหานคร ที่มีการใช้เครื่องมืออวนรุนชนิดพิเศษ สามารถกำจัดปลาชนิดนี้ได้ 100%  ร้อยเอก ธรรมนัส จึงได้ออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ กำหนดยกเว้นข้อบังคับทั่วไป ให้สามารถใช้อวนรุนจับปลาได้ ภายใต้เงื่อนไขระยะเวลา 1 ปี และ มอบให้กรมการประมงประจำจังหวัด กำหนดพื้นที่ในการจับปลา ภายใต้การควบคุมกำกับของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากการควบคุมในระยะ 1 ปีนี้ ไม่สามารถลดอัตราการขยายพันธุ์ได้ ก็จะทำการขยายประกาศฉบับนี้ต่อไป

ร้อยเอก ธรรมนัส ยังได้กำชับให้กรมประมง ประสานกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อนำปลาหมอสีคางดำไปใช้เป็นปุ๋ยหมักเพื่อใช้ในการเกษตร รวมถึงการแก้ไขปัญหาการถูกกดราคาปลาหมอสีคางดำที่จับได้โดยพ่อค้าคนกลาง เบื้องต้น กรมประมงจะมีการประชุมในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 กับสมาคมปลาป่น โดยจะหาผู้รับซื้อในพื้นที่ และกำหนดราคาซื้อขายที่เป็นธรรมกับชาวประมง

สำหรับการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ สร้างความเสียหายต่อผลผลิตในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร เนื่องจากเป็นปลากินจุ กินลูกสัตว์น้ำน้อยใหญ่ทุกชนิด ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศ เพราะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม และ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงความเค็มของน้ำได้ดี

แต่ปลาหมอสีคางดำ ไม่ใช่สัตว์น้ำที่เป็นพิษ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น ทำน้ำปลา ปลาส้ม ข้าวเกรียบ ไส้อั่ว เป็นต้น ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวประมง รวมถึงพี่น้องเกษตรกรที่อยู่ริมน้ำ สามารถจับปลาชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ ส่วนการต่อยอดในอนาคต ขณะนี้ได้คุยกับสมาคมปลาป่นในการผลิตปลาป่น  และกรมพัฒนาที่ดิน เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพคุณภาพสูงจากสัตว์น้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง