ดีเอสไอ แถลงรวบเครือข่ายโกฟุก เจ้าพ่อเว็บหวยใต้ดิน เงินหมุนเวียนหลายพันล้าน ค้นบ้านพบเงินสดซ่อนตู้เซฟ 55 ล้าน ทองคำ 350 บาท โฉนดที่ดิน ห้องชุด นาฬิกาหรู พร้อมขยายผลเลี่ยงภาษีน้ำมัน
วันนี้ (5 ก.พ.67) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายเครือข่าย “โกฟุก” จำนวน 27 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและหลายจังหวัด ซึ่งจับกุมผู้ต้องหา 7 คน จากทั้งหมด 18 คน และสามารถยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ โดยมี พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายระวี อักษรศิริ ผอ.กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ร่วมกันชี้แจง พร้อมนำตรวจดูตัวอย่างทรัพย์สินบางรายการที่มีการตรวจยึด
โดย พ.ต.อ. ทวี กล่าวขอบคุณ พร้อมกำชับการปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนคดีการสร้างหลักฐานเท็จการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปจำหน่ายต่างประเทศ เพื่อนำมาขอคืนภาษีของนายโกฟุกนั้น ถือเป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ทางอัยการสูงสุดได้ส่งผู้แทนมาพบตน แจ้งว่าคดีนี้อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้อธิบดีดีเอสไอหรือรักษาการอธิบดีดีเอสไอ เป็นพนักงานสอบสวนในคดี โดยจากการสอบสวนพบว่าบ้านหรือที่อยู่ของนายโกฟุกได้มีการทำพนันออนไลน์ด้วย ซึ่งเป็น 2 คดีที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกัน
ขณะที่นายระวี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวดีเอสไอมีเบาะแสว่ากลุ่มบุคคลภายใต้เครือข่ายโกฟุก นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ในหลายเว็บไซต์ โดยอ้างอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล และปรากฏข้อความในหน้าเพจหรือเว็บไซต์ว่า หวยรัฐบาลไทยที่ประกาศหรือโฆษณาการซื้อหวย ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมทั้งนำผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลของประเทศต่างๆ มาประกอบในการเชิญชวนให้มีการเล่นการพนัน จึงรับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 10/2567 ทางการสอบสวนมีการออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 18 ราย และนำไปสู่ปฏิบัติการตรวจค้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน ส่วนที่เหลือ 11 คน อยู่ระหว่างหลบหนีทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุม
นายระวี กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจค้นที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถยึดทรัพย์สินได้ 14 ประเภท มูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยทรัพย์สินที่สำคัญ เช่น เงินสด 55 ล้านบาท พบซุกซ่อนในตู้เซฟในบ้านพักแห่งหนึ่ง จ.ระนอง ของนายโกฟุก ทองคำหนัก 350 บาท โฉนดที่ดิน-หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด 8 ฉบับ รถยนต์ 8 คัน พระเครื่อง 97 รายการ นาฬิกาหรู 47 เรือน อาวุธปืน 10 กระบอก กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม กว่า 400 รายการ เงินหมุนเวียนมากกว่า 3,000 ล้านบาท และรายการทรัพย์สินต่างๆ ของโกฟุกและเครือข่าย ส่วนใหญ่ล้วนซื้อด้วยเงินสด หลังจากนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างการสืบทรัพย์สินที่เหลือ เพราะมั่นใจว่าเจ้าตัวมีการยักย้าย ถ่ายโอนทรัพย์สินไปก่อนบ้างแล้ว
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ดีเอสไอยังพบว่า เครือข่ายโกฟุกมีความเชื่อมโยงกับกระบวนการสร้างหลักฐานการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปจำหน่ายยังต่างประเทศอันเป็นเท็จ เพื่อนำมาขอคืนภาษี กลายเป็นการโกงภาษีที่สร้างความเสียหายแก่รัฐมากกว่า 10,000 ล้านบาท โดยพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์สร้างบริษัทปลอมที่ไม่มีสถานะนิติบุคคล และทำทีสร้างเอกสารว่าได้มีการส่งขายน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขบวนการนายโกฟุกมีแพปลาจริง มีเรือจริง มีท่าน้ำมันเป็นของตัวเอง และมีน้ำมัน แต่ผู้รับซื้อกลับไม่มีตัวตนจริง โดยตามหลักแล้วการขายส่งน้ำมันไปยังต่างประเทศจะสามารถนำมาคืนภาษีได้ ซึ่งขบวนการดังกล่าวนำหลักฐานปลอมการซื้อขายน้ำมันไปยังต่างประเทศมายื่นกับรัฐ เพื่อขอคืนภาษี โดยพบว่ากระทำการต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี
อย่างไรก็ตาม คดีสร้างหลักฐานเท็จการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปนอกประเทศ เพื่อขอคืนภาษี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม คาดว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องเอื้ออำนวยให้นายโกฟุก แต่ต้องขอเวลาในการตรวจสอบ ส่วนของมูลฐานความผิดฟอกเงินที่เราแจ้งข้อกล่าวหาไป ดีเอสไอจะไล่ตรวจสอบทรัพย์สินทุกรายการที่มีการจำหน่าย ถ่ายโอน แปลงสภาพไปยังบุคคลใกล้ชิดและจะทำการตรวจยึดให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขณะนี้นายโกฟุก หรือนายสง่า ยังอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับ หากประสงค์จะกลับเข้ามาสู้คดีในกระบวนการยุติธรรม ก็ขอให้ประสานมาได้ แต่ถ้าไม่กลับมาต้องหนีไปเรื่อยๆ
