ดักยิงตำรวจ พลีชีพ 1 นาย ฉกปืนไปด้วย 1 กระบอก

View icon 66
วันที่ 7 ก.พ. 2567 | 11.24 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจอีโอดี ตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายกว่า 10 คน ซุ่มยิงถล่มแฟลตตำรวจ สภ.รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้จ่าสิบตำรวจพลีชีพ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก หลังออกเวร พบเป็นกลุ่มใหญ่ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ 2-3 อำเภอ

เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา คนร้ายซุ่มอยู่ข้างบ้านชาวบ้าน ก่อเหตุยิง จ่าสิบตำรวจ บินหลี เศรษฐสุข ผบ.หมู่ สภ.รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพัก หลังออกเวรจากแฟลตตำรวจ สภ.รือเสาะ โดยกระสุนถูกเข้าที่ลำคอเสียชีวิต แล้วขโมยปืน M16 ไป 1 กระบอก

จากนั้นคนร้ายลากร่างไปยังจุดซุ่มยิงแล้วยิงซ้ำอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่ตำรวจที่อาศัยอยู่ในแฟลต ก็ยิงปะทะคนร้ายนาน 5 นาที ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนี และไล่เลี่ยกันไม่ถึง 5 นาที คนร้ายกดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งบรรจุในถังก๊าซปิกนิกที่หน้าปากซอยบาเละ ทำให้ร้านค้าบ้านเรือนประชาชน ได้รับความเสียหาย

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของ จ่าสิบตำรวจ บินหลี ผู้เสียชีวิต ที่จอดล้มอยู่หน้าบ้านชาวบ้าน ห่างทางเข้าแฟลตประมาณ 50 เมตร รวมทั้งวัตถุต้องสงสัยบริเวณที่เกิดเหตุยิงปะทะ พบระเบิดไปป์บอมบ์ 1 ลูก ที่ไม่ระเบิดตกอยู่ นอกจากนี้ ยังพบปลอกกระสุนปืน M16 ปืนอากา และปืนเอชเค ตกอยู่จำนวนมาก


พลตำรวจตรี ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสอบปากคำชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นคนเดินอยู่ในซอย 1 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่มาดูลาดเลา

ส่วนที่จุดระเบิด ห่างจากแฟลตตำรวจ 1 กิโลเมตรกว่า ๆ พบว่า คนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่อง ถังก๊าซปิกนิก ไว้มุมร้านค้า จนทำให้พื้นกระเบื้อง ฝ้าเพดานร้านค้าเสียหาย


ส่วนบ้านชาวบ้านและร้านค้าฝั่งตรงข้าม ก็ถูกสะเก็ดระเบิด กระจกแตกหลายหลัง และยังพบสะเก็ดระเบิดเหล็กเส้นตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ตกกระจัดกระจายอยู่หน้าบ้านของชาวบ้าน ล่าสุดตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบเค้น 1 คน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีแนวทางที่จะลดพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ปรับลดไปแล้วหลายพื้นที่แต่คงไว้เพียง 18 อำเภอ จาก 33 อำเภอ และจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินชายแดนใต้ทั้งหมดในปี 2570 และกลับมาใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงฯ ซึ่งเป็นกฎหมายปกติ ที่ต้องดูทั้งสถิติการเกิดเหตุ รวมไปถึงเครื่องมือที่จะให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ดีที่สุด อาทิ กล้องวงจรปิด เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง