ชาวบ้านในเขตที่ดินของการรถไฟฯ ทำใจต้องย้าย ออกหลังการรถไฟติดป้ายประกาศ แจ้งให้ย้ายออกไม่เกิน 5 มี.ค.นี้
วันนี้ (9 ก.พ.67) ผู้สื่อรายงานว่า ที่อาคารพาณิชย์ริมถนนมุขมนตรี การทางรถไฟได้นำแบริเออร์พร้อมป้ายประกาศแจ้งเตือน โดยข้อความในประกาศระบุว่า “การรถไฟฯ ตรวจสอบแล้วขอเรียนว่าปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง และทางการรถไฟฯ ได้ทําหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าว ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2565 จึงขอแจ้งให้ท่านขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของผู้ให้เช่า และให้ท่านส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวคืนให้กับการรถไฟฯ ในสภาพเรียบร้อย ภายในวันที่ 5 มีนาคม 2567 โดยท่านสามารถติดต่อคืนได้ที่วิศวกรกํากับการกองบำรุงทางเขตสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 044-300932 หากท่านไม่ดำเนินการให้เป็นที่เรียบร้อย การรถไฟฯ จะใช้สิทธิดำเนินการฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหายจากท่านต่อไป”
ซึ่งที่ดินผืนดังกล่าวนั้นเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีปล่อยให้เอกชนมาเช่าเพื่อก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ ภายหลังได้มีการริเริ่มโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจึงได้มีการได้บอกยกเลิกสัญญาเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่โครงการก่อสร้างโดยได้มีการบอกยกเลิกสัญญาไปแล้วตามประกาศ ซึ่งในระหว่างนั้นประชาชนที่อยู่อาศัยและประกอบธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวก็เริ่มทยอยย้ายออกจากอาคารพาณิชย์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้เหลือเพียงประมาณ 4-5 คูหาที่ยังมีประชาชนอาศัยอยู่ ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลกับผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารพาณิชย์ดังกล่าวทราบว่า ผู้ที่อยู่อาศัยและประกอบธุรกิจในอาคารพาณิชย์แห่งนี้หลังรู้ข่าวก็เริ่มมีการทยอยขนย้ายทรัพย์สินต่างๆออกไปแล้ว ส่วนที่เหลือที่ยังเห็นว่ายังไม่ได้ย้ายออกนั้นได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่จากการรถไฟแล้วว่าขออยู่ไหว้เจ้าที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนก่อน เพราะอยู่อาศัยมาเกือบ 40 ปี ทรัพย์สินมีค่าภายในร้านก็มีเยอะซึ่งต้องใช้เวลาในการขนย้าย
โดยนางสวย แซ่ตั้ง อายุ 63 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวดุ๊กดิกที่เปิดขายมาเกือบ 40 ปี เปิดเผยว่า หลังรู้ข่าวเรื่องการยกเลิกสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์เพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงตนก็รู้สึกใจหาย เพราะตนเปิดร้านมาเกือบ 40 ปี แต่ก็เข้าใจถึงเหตุผลเพราะอาคารพาณิชย์แห่งนี้สร้างอยู่บนที่ของการรถไฟ และมีความจำเป็นที่จะต้องนำที่ดินผืนนี้ไปก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเพื่อพัฒนาประเทศและจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตอนนี้ตนก็พยายามขนของที่อยู่ภายในร้านกลับไปไว้ที่บ้านเป็นบางส่วนแล้วแต่ก็ยังไม่หมดเนื่องจากทรัพย์สินและสิ่งของต่างๆมีจำนวนมากโดยในระหว่างนี้ก็จะยังเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวและทยอยเก็บของไปเรื่อยๆ ซึ่งคาดว่าจะเก็บของหมดและคืนพื้นที่ให้การรถไฟได้ก่อนวันที่ 5 มีนาคม นี้.
