บุกจับพ่อเลี้ยงโหด กระทำทารุณลูกเลี้ยงอายุ 14 ปี

View icon 157
วันที่ 12 ก.พ. 2567 | 11.23 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เยาวชนชายอายุ 14 ปี ถูกพ่อเลี้ยงกระทำทารุณ จะเรียกว่าเลี้ยงด้วยลำแข้ง ก็ว่าได้ ภายในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา นอกจากจะถูกทำร้ายร่างกายสารพัดแล้ว ยังถูกบังคับให้เสพยาบ้า รวมถึงหว่านล้อมให้ไปฆ่าพ่อแท้ ๆ

โดย กัน จอมพลัง ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อของเยาวชนชายอายุ 14 ปี คนหนึ่ง บอกว่า ลูกชายซึ่งอยู่กับพ่อเลี้ยง ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายด้วยความทารุณโหดร้าย คนเป็นพ่อแท้ ๆ ทราบเรื่องแล้วมันสุดจะทน

ไล่เรียงให้ฟังแล้วลองนึกภาพตาม ว่าเวลา 1 ปี คน ๆ หนึ่ง ถูกกระทำแบบนี้ สภาพจิตใจจะเป็นอย่างไร สภาพร่างกายไม่ต้องพูดถึง คือ น้องถูกทำร้ายด้วยการใช้ไฟแช็กลนตามร่างกาย, ถูกนิ้วดีด-เตะเข้าไปที่อวัยวะเพศ, ถูกนิ้ว และหนังยางดีดเข้าที่ลูกตา จนตาเป็นต้อ, เตะต่อยที่ใบหน้าจนกระดูกใบหน้าร้าว ตามลำตัวเขียวช้ำ มีบาดแผลผุพองจากการถูกน้ำมันราดจุดไฟเผา ถูกบังคับให้เสพยาบ้า แล้วกระโดดลงจากรถจักรยานยนต์ ขณะที่แล่นอยู่ ให้กินอุจจาระแมว-สุนัข ให้กินอาหารสุนัข รวมไปถึงฉี่ตัวเอง และฉี่ของพ่อเลี้ยง ที่สำคัญ ชักจูงใจน้องว่า ถ้าอยากเป็นหนึ่งในใจของพ่อเลี้ยง ก็ให้ไปฆ่าพ่อแท้ ๆ

วันนี้ กัน จอมพลัง ได้พาพ่อแท้ ๆ ไปร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้สอบสวนและดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง โดย นายเอ พ่อแท้ ๆ บอกว่า ตนเองได้ถูกอดีตภรรยา กับสามีใหม่ ดำเนินคดีฐานฉ้อโกง เมื่อปี 2562 ถูกจับติดคุก ทำให้ไม่มีใครดูแลลูกชาย ระหว่างที่ติดคุก ก็ทราบมาว่าลูกถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย และมีเจ้าหน้าที่จาก กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ไปช่วยเหลือ แต่ลูกชายสารภาพกับเจ้าหน้าที่ ว่าบาดแผลที่พบเกิดจากการทำร้ายตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวลูกชายกลับไปอยู่กับพ่อเลี้ยง และแม่

จนเมื่อปลายปีที่แล้ว ตนพ้นโทษออกมา ก็ออกตามหาลูก จนไปพบว่าลูกหนีไปอาศัยอยู่กับพระที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ นายเอ บอกว่า ตอนที่เห็นสภาพของลูกถึงกับน้ำตาซึม โผเข้ากอดกันร้องไห้กับลูก ถามว่าใครทำ ลูกก็บอกว่าพ่อเลี้ยง พอตนโทรศัพท์ไปสอบถามกับอดีตภรรยา ก็ยังอ้างว่าลูกชายทำตัวเอง ซึ่งตนเองไม่เชื่อ จึงได้ร้องขอให้ กัน จอมพลัง ช่วยเหลือ โดยขณะนี้ ลูกชายอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ

พันตำรวจเอก นพดล ช่างเรือน ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ ก็บอกว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งจากการสอบปากคำในเบื้องต้น ยังมีบางประเด็นที่ยังให้การไม่ตรงกัน ซึ่งจะเร่งสอบสวน หากพบว่ามีการกระทำตามที่ถูกกล่าวหาจริง ก็ต้องดำเนินคดีกันตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง