เช้าข่าว 7 สี - เกิดขึ้นอีกแล้วกับเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ มีชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจ บุกอุ้มหนุ่มยูทูบเบอร์จากบ้านพัก กำลังจะลากตัวขึ้นรถ ญาติของผู้เสียหายหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิป ก็เลยต้องปล่อยตัว ก่อนจะอ้างว่าจับผิดตัว แล้วเผ่นหนีไป
บุกอุ้มยูทูบเบอร์ ถูกถ่ายคลิป อ้างจับผิดตัว
นี่คือภาพเหตุการณ์ที่ชายฉกรรจ์ 3 คน อ้างว่าเป็นตำรวจ บุกเข้าไปจับกุมหนุ่มยูทูบเบอร์ อายุ 30 ปี ถึงในบ้าน ขณะกำลังซ่อมรถอยู่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ตอนแรกก็อ้างว่าเอารถมาให้ซ่อม ทั้งที่ผู้เสียหายไม่ได้เปิดอู่ซ่อมรถ จากนั้นแสดงตัวว่าเป็นตำรวจ แล้วพยายามฉุดกระชากให้ผู้เสียหายออกจากบ้าน แต่ผู้เสียหายไม่ยอม เพราะไม่ได้มีการแสดงหมายจับก่อนเข้าจับกุม จู่ ๆ จะมาทำแบบนี้กันได้ยังไง เป็นตำรวจจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
จากนั้น แม่และแฟนของผู้เสียหายก็ออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายที่หน้าบ้าน พร้อมกับถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ไม่กล้าทำอะไรรุนแรง จากนั้นจึงแสดงตัวว่าเป็นตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และแสดงหมายจับให้ผู้เสียหายดู แต่ปรากฏว่า หมายจับที่นำมานั้นผู้ต้องหาเป็นคนละคนกัน ก่อนที่ชายฉกรรจ์จะแยกย้ายกลับไป ทำเอาผู้เสียหายและคนในบ้านงงไปตาม ๆ กัน
ต่อมาผู้เสียหายก็ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยตรวจสอบชายฉกรรจ์ทั้ง 3 คน ซึ่งอ้างเป็นตำรวจมีพฤติกรรมอุกอาจบุกเข้าไปในบ้าน และล็อกตัวผู้เสียหาย เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย และมีความกังวลว่าอาจไม่ใช่ตำรวจจริง เนื่องจากวิธีการปฏิบัติไม่เหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้าเป็นตำรวจจริงก็มีพฤติกรรมที่อุกอาจมาก จึงมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นข่าวที่สายไหมต้องรอดช่วยเคสลักษณะคล้ายกัน ที่มีชายฉกรรจ์อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองปราบฯ บุกเข้าไปจับตัวในบ้าน และยัดข้อหาครอบครองยาเสพติด จึงกลัวว่าจะตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน
ด้าน นายเอกภพ ก็ได้ฝากให้ตำรวจตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจจริงก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่นอกรีต
จับ 1 ในชายฉกรรจ์ ร่วมข่มขู่รีดไถเงิน 100,000 บาท
ไปต่อกันที่กรณี คล้าย ๆ กัน ที่มีผู้เสียหาย 2 คน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจกองปราบปราม อุ้มไปยัดยาเสพติดและขู่เรียกเงินจำนวน 100,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ทำให้ต้องควักเงินที่มีติดตัวประมาณ 5,000 บาท ให้ไปจึงถูกปล่อยตัว แต่ก็ยังไม่วายถูกส่งไลน์มาขู่เรียกเงินซ้ำ จึงไปร้องกับทางเพจสายไหมฯ พาเข้าแจ้งความกับตำรวจ
วานนี้ (12 ก.พ.) ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี ก็ได้จับกุม นายมานะ อายุ 58 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมยึดรถกระบะที่ใช้ก่อคดี โดย นายมานะ มีหมายจับติดตัวในคดี ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันแสดงตน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยไม่มีอำนาจฯ ซึ่งก็เป็นพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกับที่ไปก่อเหตุ
สอบถามก็รับว่าเคยเป็นสายให้กับตำรวจ จึงรู้ลู่ทางในการก่อเหตุ แต่ไม่เคยบอกว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม และยังบอกว่าไม่ได้ยัดยาบ้าให้ผู้เสียหาย ยังคงยืนยันว่าผู้เสียหายมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
