ทหารหนุ่มยศร้อยโทเครียดปัญหาชีวิต นั่งแท็กซี่จาก กทม. ไปยิงตัวตายที่ชลบุรี ส่งพิกัดให้แฟนสาวมาดูศพ

ทหารหนุ่มยศร้อยโทเครียดปัญหาชีวิต นั่งแท็กซี่จาก กทม. ไปยิงตัวตายที่ชลบุรี ส่งพิกัดให้แฟนสาวมาดูศพ

View icon 2.3K
วันที่ 18 ก.พ. 2567 | 10.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 17 ก.พ. 67 เวลา 22.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วัลลภ จันทรินทร์วกร รอง ผกก. สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในซอยถนน อบจ.ชลบุรี ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรม

ที่้เกิดเหตุพบเป็นป่าชายเลน มีคลองน้ำกั้น พบรองเท้าแตะสีฟ้า 1คู่ ถอดอยู่ริมฝั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจึงได้เดินออกสำรวจหาในป่าชายเลนอีกฝั่ง พบร่างชายอายุ 37 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าสภาพหงายท้องที่ ศีรษะมีรอยเลือดและรอยถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเจาะเข้าที่บริเวณขมับ ข้างตัวพบอาวุธปืนไม่ทราบขนาด และมีโทรศัพท์มือถือตกอยู่

จากการสอบถามแฟนสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนได้เดินทางมาจาก กทม. เพื่อมาตามหาแฟนหนุ่ม เพราะทางแฟนหนุ่มได้นั่งรถแท็กซี่มาแต่เช้า และได้ทักข้อความมาหา โดยสั่งลาบอกว่าเครียดปัญหาส่วนตัว ตนก็ถามว่าปัญหาอะไร ทำไมไม่คุยกัน แล้วหนีไปไหน แฟนก็ตอบว่ามันกลับไม่ได้ และต้องตายอย่างเดียว ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรที่แฟนพูดแบบนี้ ได้แต่ค่อยๆปลอบ เพื่อจะให้ใจเย็น แต่พอถึงเวลา 16.00 น. ก็ติดต่อแฟนไม่ได้ คาดว่าน่าจะแบตโทรศัพท์หมด แต่ก่อนจะติดต่อไม่ได้ ทางแฟนหนุ่มได้ส่งพิกัดให้มาหาและมาดู เพราะจะฆ่าตัวตายตามหมุดที่ปักให้ โดยแฟนหนุ่มก็ได้ส่งให้หลายคน รวมทั้งน้าและญาติของเขา พอติดต่อไม่ได้ตนก็รีบมาตามหาตามพิกัดที่ปักไว้

แฟนสาวบอกอีกว่า พอมาถึงตนก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เพราะไม่เคยมา จนกระทั่งเจอกลุ่มวัยรุ่น จึงได้สอบถามและได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเริ่มมืดแล้วยังติดต่อแฟนไม่ได้ พอตำรวจมาดูและออกตามหาพร้อมกันก็พบรองเท้าแฟนวางอยู่ ทางตำรวจจึงได้ให้ทางกู้ภัยมาช่วยค้นหา ก็พบว่าแฟนหนุ่มเสียชีวิตแล้ว โดยแฟนหนุ่มที่เสียชีวิตดังกล่าวเป็นทหารยศร้อยโท สังกัดค่ายแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก และได้ไปลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มา 7 ปี ส่วนปืนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นปืนส่วนตัวของแฟนหนุ่มที่มีติดตัวอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนญาติและแฟนสาวของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป