สนามข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้เรานำเสนอข่าวที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน เข้าแจ้งความว่าถูกคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปพยายามข่มขืนในป่ากระถิน หลังสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี แต่ไม่สำเร็จ จึงใช้น้ำมันราดรอบตัว จุดไฟเผาเพื่อหวังฆ่าปิดปาก ซึ่งตอนแรกตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะว่าให้การวกไปวนมาไม่เหมือนกันเลย ล่าสุดตำรวจตรวจสอบพบว่าถูกก่อเหตุจริง ไปติดตามกับคุณไพศาล รัตนบรรเทิง
เป็นการเปิดเผยจากรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 หลังการประชุมคลี่คลายคดียืนยันเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ถูกคนขี่รถจักรยานยนต์พยายามพาไปข่มขืนภายในป่ากระถิน หลังสถามกอล์ฟแห่งหนึ่งในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี จริง หลังจากตอนแรกมีการตั้งข้อสังเกตว่า ผู้เสียหายให้การวกวน เสื้อผ้าไม่มีรอยเปรอะเปื้อน และมีรอยเขียวช้ำที่ข้อมือเล็กน้อย คำให้การของเธอเป็นจริงหรือไม่
เพื่อคลี่คลายคดีนี้ ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ จึงได้เรียกผู้เสียหาย และน้องชายมาสอบปากคำอีกครั้ง เธอยืนยันผ่านล่ามว่า หลังกลับจากเที่ยวสวนไทย ย่านห้วยใหญ่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 กุมพาพันธ์ ที่ผ่านมา และจะเดินทางต่อไปยังวอล์คกิ้ง สตรีท ได้มีชายชาวไทย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ผ่านมา จึงขอให้ไปส่ง พร้อมให้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง โดยน้องชายถูกพาไปส่งจุดหมาย แต่เธอกลับถูกพาไปพยายามข่มขืนในป่ากระถินอยู่ลึกเข้าไปจากถนนเกือบ 200 เมตร แต่สุดท้ายไม่สำเร็จความใคร่ คนร้ายจึงใช้โลชั่นลูบตามร่างกายเพื่อทำลายลายนิ้วมือแฝง แล้วใช้เชือกมัดมือมัดเท้า ราดน้ำมันรอบตัว แล้วจุดไฟเผาป่าเพื่อหวังฆ่าปิดปาก แต่โชคดีที่เธอแกะเชือก ก่อนรีบหนีออกจากกองเพลิง แล้วนำโทรศัพท์มือถือที่แอบไว้ในกางเกงชั้นใน ส่งพิกัดให้น้องชาย และตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ
นอกจากนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เดินปูพรมเรียงหน้ากระดานป่ากระถินที่เกิดไฟไหม้ พบหนังสือเดินทางประเทศจีน เหรียญสกุลเงินหยวน 2 เหรียญ และคีย์การ์ดโรงแรม ถูกไฟไหม้เกรียมในป่ากระถิน และห่างไปอีก 10 เมตร พบกางเกง และเชือกผูกของผู้เสียหายถูกถอดทิ้งไว้ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนหลักฐานสำคัญ ที่ตำรวจมั่นใจเมื่อไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เวลา 16.20 น. ของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ทั้งสองเดินทางออกจากหน้าสวนไทย ก่อนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปคนละคัน มุ่งหน้าไปตามถนนสาย 331 เมื่อถึงสะพานข้ามถนนมอเตอร์เวย์ รถจักรยานยนต์ของน้องชายก็ได้ข้ามสะพานไป ส่วนรถของผู้เสียหายคนขี่พาเลี้ยวขวาลอดใต้สะพาน ไปตามถนนเทศบาล 1 ก่อนมุ่งหน้ามายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีหลักฐานตรงตามที่ผู้เสียหายยืนยัน
ส่วนการติดตามตัวคนร้าย เบื้องต้นตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิด ตรวจสอบทะเบียน ยี่ห้อรถ และรูปพรรณคนร้าย เบื้องต้นพอรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และจะเร่งจับกุมกู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวต่อไป
