ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มคนหนึ่งตกเป็นเพะ ถูกออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย เมื่อปี 2561 ซึ่งตอนนั้นหนุ่มเพะรายนี้ติดคุกคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจำ ตั้งแต่ปี 2559 ปล่อยตัวมาปี 2564 จะไปก่อเหตุได้อย่างไร ตอนนี้แพะรายนี้ทุกข์ใจหนักมาก ต้องเสียโอกาสในการทำงานต่างประเทศไป เพราะมีหมายจับคาอยู่ พอเดินทางไปสอบถามตำรวจ ตำรวจบอกว่า "ให้เตรียมเงินไว้ประกันตัว 20,000 - 30,000 บาท ไม่งั้นติดคุก"
เมื่อเช้านี้ นายธีรวุฒิ ฉิ่งระห้อย หรือ แมน อายุ 35 ปี เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยหลังถูกออกหมายจับคดีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ตัวยังรับโทษคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 ตนเองถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในคดียาเสพติด จนมาถึงวันที่ 4 มกราคม 2564 ตนได้รับการอภัยโทษ ปล่อยตัวออกจากเรือนจำ หลังได้รับการปล่อยตัว ตนเองก็ทำงานอยู่ในโรงงาน จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2565 ตนเองได้ย้ายเข้ามาอยู่กับแม่ แม่จึงให้ทำเรื่องย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน เพราะเวลาทำธุรกรรมอะไรจะได้สะดวก ตนจึงเดินทางไปที่อำเภอ เพื่อทำเรื่องย้ายชื่อจากทะเบียนบ้านกลาง เข้ามาอยู่ทะเบียนบ้านแม่ แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำเรื่องย้ายให้ เนื่องจากตนเองถูกหมายจับจากศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อกายและจิตใจ ตนจึงปฏิเสธไปว่าไม่เคยก่อเหตุดังกล่าว ทางอำเภอจึงให้ไปติดต่อที่ สภ.อุทัย ซึ่งเป็นสถานที่ต้นเรื่อง
จากนั้นตนเองได้เดินทางไปที่ สภ.อุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเรื่องราวดังกล่าว พร้อมเอาเอกสารไปแสดงด้วยว่า ในปี 2561 ช่วงเวลาที่ตนเองถูกออกหมายจับ ตอนนั้นตนเองถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จะไปก่อเหตุทำร้ายใครได้อย่างไร แต่ตำรวจได้บอกว่า เรื่องนี้ต้องรอพบกับผู้กำกับ ขณะนี้ผู้กำกับประชุมอยู่ เบื้องต้นตอนนี้มีการออกหมายจับไปแล้ว ให้ตนเตรียมเงินประมาณ 30,000 บาท มาประกันตัว ถ้าไม่มีเงิน ก็ให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านใช้ตำแหน่งมาประกันตัวแทน และตำรวจได้บอกอีกว่า วันนี้จะปล่อยตนเองไปก่อน เดี๋ยวจะเคลียร์เรื่องให้ อย่าบอกใครนะว่าวันนี้ตำรวจปล่อยตัวไป ตอนนี้เรื่องก็ผ่านมา 7 - 8 เดือนแล้ว ตำรวจยังไม่ดำเนินการอะไรเลย มิหนำซ้ำเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตนได้ถูกตำรวจยกกำลังมาจับกุมตัวถึงในโรงงาน แต่วันนั้นตนเองหยุดงาน จึงไม่ถูกจับ ทำให้ตนต้องอับอาย และถูกมองว่าเป็นคนไม่ดี จนต้องออกจากงาน จากนั้นตนเองได้เดินทางไปสมัครงานในบริษัทต่าง ๆ แต่ก็ถูกปฏิเสธ เนื่องจากตนเองเป็นคนมีหมายจับ
เรื่องนี้ทำให้ตนเสียโอกาส เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ แต่ได้ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคุมตัวไว้ ได้บอกว่าตนมีหมายจับ ไม่สามารถออกนอกประเทศได้ ตนจึงได้อธิบายให้ตำรวจฟัง และโชว์ใบบริสุทธิ์ให้ดู แต่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ให้ตน ไปทำการถอนหมายจับให้เสร็จเสียก่อน ถึงจะออกนอกประเทศได้
ตอนนี้ตนเองทุกข์ใจมาก ทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ แถมยังพลาดโอกาสที่จะได้งานดี ๆ ทำ ต้องอยู่หลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะหากถูกจับก็ไม่มีเงินประกันตัว กลัวจะต้องไปสู้คดีในคุกอีก จึงมาของความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะอ้างยังไง เพราะว่ามันชัดเจนว่า ตัวเขาอยู่ในเรือนจำในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ จะไปก่อเหตุได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ตำรวจต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหาย และเตรียมจะประสานไปยัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ช่วยสั่งการแก้ไขกรณีนี้ต่อไป
ล่าสุด พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผู้กำกับการ สภ.อุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกมาชี้แจงเรื่องนี้แล้ว ว่า เหตุการณ์ทั้งหมด ผู้เสียหายในคดีนี้ชี้รูปผู้ก่อเหตุผิดตัว
ตำรวจได้นำรูป นายแมน มาให้ชี้ตัว เพราะคิดว่าเป็นคนก่อเหตุ พนักงานสอบสวนจึงออกเอกสารไปขอหมายจับตามคำชี้ของผู้เสียหาย แต่มาทราบภายหลังว่า ผู้เสียหายไปมีเรื่องกับน้องชายนายแมน ด้วย จึงทำให้เกิดความสับสน