ห้องข่าวภาคเที่ยง - ปัญหาหมอกควันไฟป่า ขณะนี้ที่ภาคอีสานและภาคเหนือตอนบน สถานการณ์เริ่มลุกลามรุนแรง เจ้าหน้าที่ต้องทำงานกันอย่างหนักในการดับไฟ
ที่จังหวัดเลย ไฟป่าวนอุทยานภูบ่อบิด บริเวณวัดไตรสวรรค์ ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมืองเลย ที่ลุกลามอย่างรุนแรง ต้องระดมเจ้าหน้าที่กว่า 200 คน เข้าทำการดับไฟในพื้นที่ แต่ยังคุมไม่ได้ ล่าสุดพื้นที่เสียหายประมาณ 1,000 ไร่ และการดับไฟทำด้วยความยากลำบาก เพราะพื้นที่เป็นป่าไผ่และไม้เบญจพรรณ ที่แห้ง ติดไฟง่าย บางจุดเป็นหน้าผาสูงชัน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุมาจากมีคนลักลอบจุดไฟเผา
เช่นเดียวกับที่จังหวัดชัยภูมิ ไฟป่าที่ลุกลามตามชายป่าเทือกเขาภูแลนคา โหมไหม้อย่างรุนแรง เริ่มจากชายป่าภูเขาภูแลนคา ใกล้กับบ้านหลุบเพ็ก ลุกลามสู่ยอดเขาสูงพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน ใกล้กับบ้านดงเย็น ตำบลห้วยไร่ อำเภอคอนสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังช่วยกันดับไฟป่าตลอดทั้งคืน ส่งผลให้มองเห็นไฟไหม้ป่า ไปตามแนวยาวของเทือกเขาภูแลนคา และพบว่ามีพื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่
ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ ดาวเทียม GISTDA พบจุดความร้อนทั้งหมด 23 จุด โดยพบมากที่สุดที่อำเภอฮอด จำนวน 16 จุด ถ้ามองเจาะให้ลึกลงไปพบว่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออบขาน มีไฟไหม่ป่ามาแล้วเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ขณะในตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มมีหมอกควันปกคลุมในตัวเมือง และมีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ที่จังหวัดตาก พบว่ามีไฟป่าบนภูเขาน้ำดิบ ตำบลสมอโคน อำเภอบ้านตาก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าตำบลสมอโคน พร้อมเดินเท้าขึ้นไปดับไฟป่า ขึ้นไปเองทั้งชุดกากี ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัด และยังคงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังต่อไป
