สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ครอบครัวเชิญวิญญาณ "น้องนุ่น" เหยื่อสามีโหดฆ่าแล้วเผา และมีเรื่องแปลก พี่ชายเกิดอาเจียน ขนลุก เผยสัมผัสได้ว่า "น้องนุ่น" รับรู้ว่ามารับกลับบ้าน ขณะที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สรุปผลการตรวจชี้สาเหตุเสียชีวิต เพราะถูกของแข็งไม่มีคมทุบศีรษะ จนกะโหลกแตก
เมื่อวาน (23 ก.พ.) ครอบครัว "น้องนุ่น" ได้นำเอกสารหลักฐานเดินทางไปพบ พันตำรวจโท ณัฐธนพล อินทรเรืองศร สารวัตรสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เจ้าของคดี เพื่อขอรับใบรับศพลูกสาว ที่ถูก นายทอย สามีโหดใช้ก้อนอิฐทุบศีรษะ และทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปเผาอำพรางที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดในอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
จากนั้นครอบครัวก็ไปรับร่าง และกระดูก "น้องนุ่น" ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังจากแพทย์นิติเวช ทำการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลเสร็จสิ้น ซึ่งครอบครัวบอกว่า ตอนนี้ยังไม่อยากขอพูดอะไร โดยเฉพาะกับนายทอย สามีน้องนุ่น ก็ไม่ต้องมาพูดถึงคนนี้ เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของทุกคนย่ำแย่ ยิ่งมาพบเห็นสภาพของน้องนุ่น
นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังได้ไปทำพิธีเชิญวิญญาณ จุดที่ "น้องนุ่น" ถูกทำร้าย พร้อมกับพูดบอกกับ "น้องนุ่น" ว่า แม่กับพ่อเอาอาหารมาให้นุ่น และมารับ "น้องนุ่น" กลับบ้าน ตามแม่กลับบ้านด้วยกันนะ ส่วนลูกสาวของ "น้องนุ่น" ไม่ต้องเป็นห่วง แม่จะดูแลเอง ขอให้ "น้องนุ่น" ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ให้วิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี
นายเอ ญาติน้องนุ่น ได้เดินไปตรงจุดที่มีรอยคราบเลือดบริเวณหลังบ้าน แล้วนั่งก้มหน้าอาเจียน น้ำตาไหล พร้อมทั้งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกว่า "น้องนุ่น" น่าจะรับรู้แล้วว่าญาติพี่น้องมาเชิญวิญญานกลับบ้าน ส่วนสาเหตุที่ตนรับรู้ได้ เพราะตนปฏิบัติธรรมเกี่ยวกับกรรมฐาน ซึ่งตอนแรกที่ตนเดินเข้ามาในบ้านก็เกิดอาการขนลุก เพราะได้รับกระแสจิต หรือดวงวิญญาณที่สื่อจาก "น้องนุ่น" และหากได้นั่งสมาธิตอนกลางคืนอาจสื่อสารได้มากกว่านี้ และก่อนเดินทางกลับนายเอ ยังแผ่เมตตาให้กับ "น้องนุ่น" ด้วย
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เข้าไปเก็บหลักฐานต่าง ๆ เพิ่มเติมภายในบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะเกิดเหตุโศกนาฏกรรม ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
นอกจากนี้ยังตรวจรถเก๋ง BMW ซึ่งเป็นรถที่ นายทอย ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งนำกระเป๋าเดินทางสีแดง และแกลลอนน้ำมันมาจำลองเหตุการณ์ ก่อนจะขับรถคันดังกล่าวกับไปที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อนำหลักฐานต่าง ๆ ไปประกอบในสำนวนการสอบสวนในการ เพื่อดำเนินคดีกับ นายทอย ผู้ต้องหาคดีนี้
ทางด้าน สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สรุปผลการตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคล จากโครงกระดูกที่พบถูกเผาในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยการตรวจ DNA เปรียบเทียบกับแม่ของผู้เสียชีวิต พบว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน สามารถยืนยันความเป็นแม่ลูกกันได้ จึงสรุปได้ว่าโครงกระดูกที่พบจากในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็น "น้องนุ่น"
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต จากการตรวจสอบโครงกระดูกทั้งหมดแล้ว แพทย์สามารถตรวจสอบร่องรอยการแตกร้าวของกะโหลกศีรษะ บริเวณช่วงโหนกแก้มด้านขวา ต่อเนื่องไปยังเบ้าตา และกกหู โดยบาดแผลที่ตรวจพบมาจากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการยุบตัว และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต สำหรับผลการตรวจสอบโครงกระดูกส่วนอื่น ๆ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือมีบาดแผลอื่นแต่อย่างใด คาดว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายที่บริเวณศีรษะเพียงอย่างเดียว
ไปดูที่บ้านเกิด "น้องนุ่น" ซึ่งอยู่ในอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี ญาติ ๆ ก็เตรียมรับชิ้นส่วนร่างของ "น้องนุ่น" มาประกอบพิธีทางศาสนา โดยทุกคนต่างอยู่ในความโศกเศร้ากับการสูญเสียคนที่รักในครอบครัว โดยมีเพื่อนบ้านมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง แต่ญาติจะหารือกันอีกทีว่าจะมีพิธีฌาปนกิจวันไหน
ส่วนลูกสาวอายุขวบเศษ ที่อยู่ในวันเกิดเหตุนายทอย สามีโหดฆ่า "น้องนุ่น" ญาติก็ได้พากลับไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ในความดูแลของญาติ และทุกคนในครอบครัวดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง เพราะต้องพบกับความสูญเสียตั้งแต่ยังเล็ก
