ลงพื้นที่ตรวจสอบอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวชาวจีน ตกร่มพาราเซล

สนามข่าว 7 สี - ผลสอบเบื้องต้น อุบัติเหตุนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน เล่นร่มพาราเซลที่หาดกะรน ส่วนหนึ่งเกิดจากทิศทางลมเปลี่ยน ขณะร่อนลง ทำให้ร่วงตกลงมากระแทกพื้นทราย ขาหัก ล่าสุด นักท่องเที่ยวสาวจีนรายนี้ เดินทางกลับประเทศไปแล้ว

ผู้อำนวยการสำนักเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ เทศบาลตำบลกะรน ลงพื้นที่ไปสอบผู้ประกอบการเรือลากร่ม ตรวจสอบใบอนุญาตการจดทะเบียนเรือ และใบอนุญาตคนควบคุมเรือ ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมพาราเซล หรือ เรือลากร่ม หลังจากที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีน อัดคลิปเล่าเรื่องราวที่ประสบอุบัติเหตุ ขณะเล่นร่มพาราเซล ตกลงมาขาหัก

พนักงานเรือลากร่ม เล่าว่า วันเกิดเหตุ 24 กุมภาพันธ์ ประมาณ 17.00 น. นักท่องเที่ยวไม่ได้ตกจากร่ม แต่ตกลงมากระแทกพื้นบนหาดทราย 

ขณะที่ นายณชพงศ์ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตระบุว่า เรือสปีดโบตที่ลากร่ม มีใบอนุญาตถูกต้องจากกรมเจ้าท่า และมีประกันภัย ในภูเก็ตมีเรือลากร่ม และลากบานานาโบต 39 ลำ ที่ขึ้นทะเบียนไว้ และจากนี้จะมีโครงการนำคนเรือกว่า 1,000 คน อบรมเรื่อง CPR และการปฐมพยาบาลช่วยชีวิต ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

เมื่อวาน ตำรวจกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3 ไปที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดภูเก็ต ไปเยี่ยมนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่รักษาตัวอยู่ อาการโดยรวมดีขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยังยืนยันจะเรียกค่าเสียหายจากคู่กรณี จำนวน 200,000 บาท เพราะตอนนี้หมดเงินค่าผ่าตัดรักษาไปแล้ว กว่า 150,000 บาท 

ล่าสุด นักท่องเที่ยวสาวจีนรายนี้ออกจากโรงพยาบาล เดินทางไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต บินกลับประเทศจีนไปแล้วเมื่อเย็นวานนี้ ( 28 ก.พ.)

อีกประเด็นที่เป็นดรามาต้องเคลียร์ กรณีที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนพูดตอนหนึ่งว่า หลังเกิดเหตุ รอรถพยาบาลมารับนานถึง 2 ชั่วโมง เพราะสภาพจราจรที่ภูเก็ตรถติดมาก รถพยาบาลบอกกว่าจะไปถึงที่หาดต้องใช้อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง จนไปถึงโรงพยาบาลแรก เครื่องมือไม่พร้อม รอทำเรื่องอีก 5-6 ชั่วโมงกว่าจะส่งไปที่โรงพยาบาลเอกชน

เรื่องนี้ ทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ตรวจสอบกับสายด่วน 1669 ลำดับเวลาหลังรับแจ้งเหตุ เวลาประมาณ 19.00 น. รีบจัดรถพยาบาลฉุกเฉิน มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตชั้นสูงออกไปด้วย แต่ต่อมาได้รับแจ้งว่านักท่องเที่ยวไม่รอแล้ว มีรถไปส่งที่โรงพยาบาลเอง อย่างไรก็ตาม วันศุกร์นี้ (1 มี.ค.) สพฉ.จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และจัดระบบรักษาพยาบาลนักท่องเที่ยว และดูสภาพปัญหาในพื้นที่ต่อไป

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย การให้บริการของผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจกีฬาผาดโผน 

เพราะมีช่วงหนึ่งที่สาวจีนพูดว่า กีฬาผาดโผนในไทย อย่าเสี่ยงเล่นเด็ดขาด มาตรฐานความปลอดภัยต่ำมาก พอจ่ายเงินเสร็จ ก็ให้รีบสวมเสื้อชูชีพ ไม่อธิบายใด ๆ เหมือนไม่เห็นความสำคัญของชีวิตนักท่องเที่ยว เห็นเป็นแค่แหล่งเงิน เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขปรับปรุง จัดระบบดูแลนักท่องเที่ยวกันใหม่ให้ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย ไม่ให้มีผลกระทบการท่องเที่ยว