ผู้นำสิงคโปร์แจงกรณีคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์

นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ออกมาตอบขณะเปิดแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ที่นครเมลเบิร์น ของออสเตรเลีย ถึงกรณีดีลพิเศษคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์ ศิลปินชื่อดังระดับโลก ว่าองค์กรของสิงคโปร์ ได้เจรจาข้อตกลงกับ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ให้เดินทางมายังสิงคโปร์เพื่อแสดงคอนเสิร์ต และตกลงให้เปิดการแสดงที่สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวได้รับผลตอบรับที่ประสบความสำเร็จ และผู้นำสิงคโปร์ไม่คิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร
            
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลัง นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ว่า สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวที่ได้จัดคอนเสิร์ต "The Eras Tour 2024" ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เพราะทำข้อตกลงกับผู้จัดคอนเสิร์ตไม่ให้เธอเปิดการแสดงในประเทศอื่นของอาเซียน โดยเสนอเงินอุดหนุน 2-3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ราว 71-107 ล้านบาท ต่อ 1 รอบการแสดง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีต่างประเทศของสิงคโปร์ออกมาตอบโต้ว่า ตัวเลขของข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้สูงเท่าที่มีการคาดเดากัน แต่ก็ปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัด นอกจากนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของสิงคโปร์ว่า "นี่ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนบ้านที่ดีทำกัน" พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ประท้วงอย่างเป็นทางการต่อกรณีนี้ด้วย
            
ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเมย์แบงก์ (Maybank) ประเมินว่า 7 ใน 10 ของผู้ชมคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทั้งหมด 300,000 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยใช้จ่ายเงินรวมกันสูงถึง 350-500 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือ ราว 9,000-13,000 ล้านบาท เป็นค่าที่พัก, ค่าอาหาร และค่าสันทนาการ ด้านนักวิเคราะห์ของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ระบุว่า ค่าโรงแรมที่สิงคโปร์ในสัปดาห์นี้ สูงกว่าราคาช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด19 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ เว็บไซต์ Trip.com Singapore เปิดเผยว่า ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 1-9 มีนาคมนี้ สูงขึ้นเกือบ 3 เท่า และค่าที่พักก็เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า ส่วนยอดจองทัวร์ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพิ่มขึ้นกว่า 2,300 เปอร์เซ็นต์