หมอกควันยังหนักต่อเนื่อง

View icon 51
วันที่ 19 มี.ค. 2567 | 04.13 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - หมอกควันเชียงใหม่ ยังอ่วม ทั้งเมืองจมหมอก ทำให้ฝนหลวงต้องขึ้นบินเจาะเปิดชั้นบรรยากาศ

หมอกควันยังหนักต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์หมอกควันไฟป่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวานนี้ วัดค่าฝุ่น PM2.5 ได้สูงที่สุดอยู่ที่อำเภอเชียงดาว วัดได้ 415 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ในตัวเมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 180 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยขณะนี้ข้อมูลจากเว็บไซต์ "iqair.com" จังหวัดเชียงใหม่ มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 4 ของโลก สำหรับสาเหตุก็มาจากไฟป่า และพบจุดความร้อน ทั้งหมด 140 จุด

ทำให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ นำเครื่องบิน 6 ลำ ขึ้นทำฝนหลวงบรรเทาปัญหาหมอกควันฝุ่นละออง และบรรเทาปัญหาภัยแล้ง รวมถึงการใช้เทคนิคเจาะช่องชั้นอากาศ เร่งกระบวนการทางธรรมชาติ ให้เกิดการหมุนเวียนของกระแสอากาศ ระบายฝุ่นควันออกไปให้ได้มากที่สุด

"เศรษฐา" เจอของจริง ไฟป่าข้างทาง
และระหว่างที่ขบวนรถของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปจังหวัดพะเยา เพื่อตรวจราชการและประชุม ครม.สัญจร ก็ได้เจอกับไฟป่าของจริง ถึงกับต้องจอดรถดู ใกล้จุดชมวิวรอยต่อจังหวัดลำปาง เชียงราย พะเยา สอบถามเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่า ทราบว่าไม่ได้เกิดจากเผาป่า แต่เป็นการทิ้งก้นบุหรี่ บอกประชาชนจากเหตุเล็ก ๆ นี้ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ ต้องระวังกันหน่อย

แชร์พิกัดฝุ่นพุ่งสูงในภาคเหนือ
ไปดูชาวโซเชียลแชร์ภาพเมืองจมฝุ่นทางภาคเหนือ นี่เป็นภาพบรรยากาศยามเช้า ภายในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ควรจะเป็นเช้าที่สดใส แต่กลับมีหมอกปกคลุม จนมองเห็นภูเขาเลือนราง

ส่วนนี่เป็นภาพท้องฟ้าที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มุมเก่า ที่เดิม เป็นลานที่พักบนเนินเขา ภาพท้องฟ้าสดใส ถ่ายเมื่อปลายปีที่แล้ว ส่วนอีกภาพมองเห็นเป็นฟ้าขาวไปหมด ถ่ายเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝุ่นปกคลุมจนมองไม่เห็นวิวเขา

ภาพนี้น่ากลัว ที่เชียงใหม่ สภาพไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ เต็มไปด้วยฝุ่นหนาแน่น บ้านใครมีเครื่องฟอกอากาศอย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองอากาศ หากงบจำกัด และหาซื้อไม่ได้ ก็เอาเครื่องเป่าฝุ่นออก หรือเอาผ้าเช็ดออกไปก่อน

อว.สั่งใช้รถบัส EV ลดการปล่อยมลพิษ
ค่าฝุ่นวิกฤต ต้องร่วมด้วยช่วยกัน เบื้องต้น จากการลงพื้นที่ ครม.สัญจร กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สั่งนำร่องที่มหาวิทยาลัยพะเยา เปลี่ยนมาใช้รถบัส EV จำนวน 30 คัน แทนรถบัสเครื่องยนต์ดีเซล หวังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปีละ 3,000 ตัน ที่ปกคลุมภาคเหนือ

และหลังจากนี้ จะให้ทุกมหาวิทยาลัยลดการปล่อยมลพิษ ด้วยการหันมาใช้รถบัส EV ที่เป็นพลังงานสะอาด หากทำสำเร็จตามเป้าหมาย 5,000 คัน ภายในปี 2573 หรืออีกประมาณ 6 ปีข้างหน้า จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ถึงปีละ 500,000 ตัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง