ห้องข่าวภาคเที่ยง - ได้เวลาเฉลยแล้ว ว่าที่เก็งข้อสอบไว้ว่า ทนายความของ "บิ๊กโจ๊ก" จะแถลงข่าวเรื่องไหนบ้างในวันนี้ จะตรงกันอยู่กี่เรื่อง จะมีไหมเรื่องการแฉเส้นทางเงินพัวพัน "บิ๊กตำรวจ"
หลักใหญ่ใจความสำคัญมีทั้งการชี้แจงข้อเท็จจริงเส้นทางการเงินที่พัวพันกับ "พันตำรวจโท คริษฐ์" 1 ใน 8 คณะทำงานของ "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าพัวพันกับ "บิ๊กโจ๊ก" จริงหรือไม่
การตั้งข้อสังเกตความไม่ชอบมาพากลในการทำคดี ทำไมถึงระบุว่า ตำรวจชุดที่ทำคดีนี้ไม่มีอำนาจในการสอบสวนดำเนินคดี ใครควรเป็นคนทำคดี รวมถึงกระแสข่าวที่มีการเปิดเผยกันออกมาก่อนหน้านี้
ยกตัวอย่าง เรื่องใบอนุโมทนาบัตร วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อันนี้ก็เคลียร์ว่า ใบอนุโมทนาบัตรมี 2 ใบ ที่ผ่านบัญชีของ "พันตำรวจโท คริษฐ์" มาจากหญิงที่ชื่อ "หลุยส์" ที่ฝากเงินไปทำบุญ 200,000 บาท ส่วน "บิ๊กโจ๊ก" ไปทำบุญและนำเงินสดไปบริจาคให้กับวัดเอง เพียงมียอดเงินเท่ากัน แล้วถูกนำใบอนุโมทนาบัตรไปเชื่อมโยง
เรื่องการซื้อตั๋วเครื่องบินให้ ป.ป.ช. ก็ชี้แจงว่าไม่จริง เป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินของ "พันตำรวจโท คริษฐ์" ที่ซื้อผ่านเอเจนซี จะพาครอบครัวรวม 3 คน เดินทางกลับบ้านที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ยอดเงิน 13,000 บาท
หัวข้อหลัก คือ ความเชื่อมโยงกับคดี "มินนี่" ทำไมทีมทนายความยืนยันว่าเกี่ยวข้อง ก็เพราะบัญชีธนาคารที่มีชื่อของ "พิมพ์วิไล" เคยมีชื่อปรากฏอยู่ในคดีของ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นต้นทางคดีเว็บฯ พนัน "มินนี่" แล้วบัญชีนี้ก็ยังถูกใช้เป็นหลักฐานในการออกหมายจับผู้ต้องหาเมื่อปี 2566 พนักงานสอบสวนในคดีนี้ ส่วนใหญ่ถูกใช้ทำคดีเว็บฯ พนัน "BNK Master" จะบอกว่าไม่รู้เบื้องหลังคดีก็ไม่ได้
พร้อมกันนี้ยังถามกลับว่า ถ้าคดีนี้เป็นคดีฟอกเงินจริง เกี่ยวข้องกับเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาทจริง ทำไมไม่อยู่ในอำนาจที่ DSI เป็นคนทำคดี ทำไมเส้นทางการเงินอื่น ๆ ที่โอนจากบัญชี "พิมพ์วิไล" ตรงเข้าหาตำรวจหลายนาย ถึงไม่ถูกนำไปใช้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่เซอร์ไพรส์ ปิดท้ายการแถลงข่าว คือ การปรากฏตัวของ พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 ใน 8 ผู้ต้องหาที่มาช่วยสรุปไขข้อข้องใจสื่อมวลชน ว่าทำไมคดีนี้ถึงเชื่อมโยงกัน ส่วนทนายความได้แยกตัวไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ 4 หน่วยงาน ตามที่ได้บอกไว้
