ลือหึ่ง! สกัดสองบิ๊กตำรวจ ขัดแย้งแบ่งฝ่าย หวั่นตำรวจถูกแฉ ตบเท้าขึ้นศาลฯ เพียบ

View icon 44
วันที่ 22 มี.ค. 2567 | 07.10 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - มาดูกันต่อเรื่องของ 2 บิ๊กสีกากี ที่ตอนนี้ถูกย้ายไปปฏิบัติงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี "ผู้การแต้ม" พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอก หากมองย้อนในอดีตตำรวจที่ถูกย้ายเข้ากรุ ส่วนใหญ่ไม่ได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เชื่อ "บิ๊กต่าย" รักษาราชการฯ ผบ.ตร. สามารถเรียกศรัทธาจากประชาชนได้ หากทำคดีทั้ง 2 บิ๊กอย่างตรงไปตรงมา ส่วนกระแสข่าวมีการหิ้วเงินเว็บฯ พนัน ไปให้นายพลระดับบิ๊ก ผู้การแต้มบอกไม่รู้ ไม่รู้

ลือหึ่ง! สกัดสองบิ๊กตำรวจ ขัดแย้งแบ่งฝ่าย หวั่นตำรวจถูกแฉ ตบเท้าขึ้นศาลฯ เพียบ
เรื่องหิ้วเงินเว็บไซต์พนันไปให้นายพลระดับบิ๊ก กำลังมีข่าวเมาส์กันหนาหูเลย แต่ก็ยังไม่มีใครออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทีมสนามข่าว 7 สี ยกหูไปหาใคร ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่รู้ ไม่รู้ ไม่ขอพูดเรื่องนี้

แต่ที่พูดกันคือ การสั่งเบรกของนายกรัฐมนตรี ประเด็นนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ทำให้สั่งทั้งคู่เข้ากรุ เพราะอนาคตอาจไม่ได้เห็นแค่ 2 บิ๊กมีปัญหากัน แต่อาจเห็นตำรวจไม่ต่ำกว่า 30 นาย เดินขึ้นศาล เพราะถูกแฉเส้นเงินโยงเว็บฯ พนัน

"บิ๊กต่าย" ต้องทำคดี บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก ให้กระจ่าง เพื่อเรียกศรัทธากลับจากประชาชน 
หนึ่งในคนที่สนามข่าว 7 สี ยกหูไปสอบถาม "ผู้การแต้ม" พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกเรื่องหิ้วกระเป๋าไปหาใครไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ วันนี้คือเรื่องหนักไปอยู่ที่ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร์ หรือ บิ๊กต่าย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องทำคดีของทั้ง 2บิ๊กอย่างอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชน เพื่ออนาคตของตัวเองที่ถือเป็น 1 ในแคนดิเดต ผบ.ตร. คนที่ 15 แล้วปัจจุบันประชาชนรู้ทุกอย่าง หากทำเข้าข้างใคร รับรองสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแต่พังกับพัง

ผู้การแต้ม บอกอีกว่า เรื่องแฉอักษรย่อ นายพล ต. ของลูกน้องบิ๊กโจ๊ก ต้องเอาหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีด้วย และต้องมีการสืบสวนสอบสวน ในเมื่อตำรวจมีอักษรย่อขนาดนั้น ต้องมีหลักฐาน หากปล่อยไว้ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทีมบิ๊กโจ๊กก็มีแต่เสียกับเสีย เพราะถือว่าเลือกปฏิบัติ ประชาชนจะไม่เชื่อใจ

ส่วนคดีของบิ๊กโจ๊ก ที่ออกหมายเรียกแล้ว เมื่อวาน ไม่มาตามหมายเรียก ผู้การแต้มบอกตามกฎหมายตำรวจต้องออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ซึ่งมีรายงานว่าวันนี้ตำรวจจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 โดยพนักงานสอบสวนจะนำไปส่งที่บ้านพักของ "บิ๊กโจ๊ก" ในซอยวิภาวดี 60 รวมถึงจะส่งไปที่ "ทำเนียบรัฐบาล" และบ้านพักตามภูมิลำเนาที่จังหวัดสงขลา ถ้าไม่มาอีก ตำรวจจะต้องออกหมายจับบิ๊กโจ๊ก ไม่ทำไม่ได้

โดยเฉพาะเรื่องทองที่ขายไป 11,000 บาท ที่มาที่ไปทองมาจากไหน แล้วเงินที่ขายทองทั้งหมดเอาไปไหน ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน ประเด็นนี้ ปปง. ต้องตรวจสอบ และหากตอบไม่ได้ ก็เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ

ขณะที่พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง 1 ใน 3 คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะ เกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ชี้แจงว่าที่นายกฯ สั่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เพราะห่วงเรื่องการแถลงข่าวโต้แย้งกัน จึงต้องมีคนกลางที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร มาตรวจสอบดูข้อเท็จจริง ใครทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด หรือใครที่มีข้อมูลคณะกรรมการก็พร้อมรับฟัง

ส่วน "บิ๊กต่าย" พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างรอฟังความเห็นของคณะกรรมการแต่ละคณะ ย้ำว่ามีหน้าที่ต้องทำตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายให้ทำ 10 กว่าเรื่อง เพื่อประชาชน

ขณะที่เมื่อวานนี้ ทั้ง บิ๊กต่อ และบิ๊กโจ๊ก ที่ถูกสั่งให้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ารายงานตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน

บิ๊กต่อ ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ที่รู้แล้วว่าต้องดูแลเรื่องม๊อบ และเรื่องจิตอาสาที่เคยทำ บิ๊กโจ๊ก ก็ได้รับมอบหมายงานให้เป็นที่ปรึกษากฎหมาย, พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ  

ส่วน บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก จะได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เรื่องนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ เพราะต้องดูผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ต้องมารอลุ้นกันว่า 2 บิ๊กคราวนี้จะเป็นข้อยกเว้นหรือไม่

เมื่อวาน รายการศจีตีคดี มีโอกาสสัมภาษณ์ พลตำรวจเอก เอก อังศนานนท์ กรรมการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ ถึงคำสั่งฟ้าผ่า เด้ง 2 บิ๊กตำรวจครั้งนี้ จะกระทบต่อการเลือกตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 15 หรือไม่

ท่านก็เปิดเผยว่า ไม่น่าจะกระทบ เพราะจริง ๆ แล้วการเลือก ผบ.ตร. คนที่ 15 ครั้งนี้ อาจจะล่าช้าออกไป เพราะนอกจากยึด พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ยังมีอนุบัญญัติ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยเรื่องการแต่งตั้ง ประจำปี 2567 ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ลงนาม คาดว่าอย่างเร็วถ้าเป็นวันที่ 1 เมษายนนี้ ฉะนั้นนับไปอีก 6 เดือน ถึงจะมีผลบังคับใช้ได้ ฉะนั้นการเลือก ผบ.ตร.จะเริ่มได้ประมาณ 1 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งตอนนั้น บิ๊กต่อ เกษียณอายุราชการ 30 กันยายนไปแล้ว ซึ่งช่วงที่เป็นสูญญากาศ ตามกฎหมายนายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งใครมารักษาการ หรือให้ รอง ผบ.ตร. อาวุโสสูงสุดรักษาการ ผบ.ตร.ก็ได้

ส่วน บิ๊กโจ๊ก ถ้าถึงเวลานั้น ได้โดนย้ายกลับมา สตช. ก็ยังเป็นรอง ผบ.ตร. แม้ต้องคดีความ แต่หากศาลยังไม่ตัดสิน ก็ถือว่ายังเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.อยู่ แต่ขึ้นอยู่ว่านายกรัฐมนตรีจะเสนอชื่อใคร ที่สำคัญบุคคลนั้นจะมีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะที่จะเป็น ผบ.ตร. คนต่อไปหรือไม่ เพราะไม่ใช่แค่ความอาวุโส มีความรู้ความสามารถทุกด้าน แต่ยังต้องมีความประพฤติที่ดี มีธรรมาภิบาล จรรยาบรรณของวิชาชีพตำรวจด้วย