บัญชีม้าสารภาพ ข้ามไปรับเงินฝั่งกัมพูชา ร่วมงานแก๊งคอลเซนเตอร์

บัญชีม้าสารภาพ ข้ามไปรับเงินฝั่งกัมพูชา ร่วมงานแก๊งคอลเซนเตอร์

View icon 129
วันที่ 25 มี.ค. 2567 | 16.57 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจไซเบอร์ ตามรวบบัญชีม้า 6 คน รับเงินแก๊งคอลเซนเตอร์ สารภาพข้ามฟากไปรับเงินฝั่งกัมพูชา ได้ค่าจ้างวันละ 4,000-5,000 บาท

บัญชีม้า วันนี้(25 มี.ค.2567) เวลา 13.30 น. นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุม 6 บัญชีม้าข้ามแดนไปสแกนหน้า เครือข่ายแอบอ้างเป็นกรมที่ดิน

สืบเนื่องจากกรณีมิจฉาชีพหลอกลวงให้ผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินของผู้เสียหาย และแนะนำเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจริง คนร้ายจะขอเพิ่มเพื่อนกับผู้เสียหายทางไลน์เพื่อสะดวกในการติดต่อ จากนั้นจะให้ผู้เสียหายโหลดแอปพลิเคชันที่ส่งมาให้ คนร้ายจะสอบถาม หรือให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ตลอดจนการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อทำตามที่คนร้ายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินแนะนำ เพื่อลงทะเบียนการเสียภาษีที่ดิน หรือยืนยันกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ภายหลังจึงทราบว่าเงินในบัญชีธนาคารของผู้เสียหายที่ผูกไว้กับโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวได้ถูกโอนออกไป ทำให้ผู้เสียหายสูญเสียเงิน ซึ่งเป็นการกระทำความผิดเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ในการหลอกลวงผู้เสียหาย เพื่อประโยชน์แห่งทรัพย์สินของผู้เสียหาย จึงได้รวบรวมคดีที่เคยมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 4 ล้านบาท

พ.ต.อ.สรกฤช พันธ์ศรี ผกก.3 บก.สอท.3 ดำเนินการสืบสวนสอบสวน พบว่า พฤติการณ์ที่กลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้มีลักษณะเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการเงิน ทรัพย์สิน ร่วมกันวางแผนโดยมีการใช้ หมายเลขโทรศัพท์ ติดต่อสื่อสารกับประชาชนทั่วไปโดยการสุ่มไม่เจาะจงว่าเป็นบุคคลใดบุคคลหนึ่งในลักษณะแพร่กระจายเป็นเครือข่ายในลักษณะ Call Center โดยได้ใช้โทรศัพท์โทรเข้าไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่และหลอกผู้เสียหายให้กดลิงก์ที่คนร้ายส่งมาให้ทางไลน์ และทำการดูดเงินโอนเงินออกจากบัญชีธนาคารผู้เสียหายโดยที่ผู้เสียหายไม่ทราบ การโอนเงินดังกล่าว กลุ่มของคนร้ายได้มีการโอนเงินต่อ ๆ กันไปไม่ขาดช่วง ซึ่งเป็นการโอน รับโอน และถอนเงิน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ขอหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย โดยสามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 6 ราย ดังนี้
1.น.ส.อาทิตยาฯ อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดอ่างทอง
2.นายพงษ์ศักดิ์ฯ
3.น.ส.จำปีฯ อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว
4.นายสำราญฯ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว
5.น.ส.พิมนัสฯ อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดสมุทรสาคร
6.น.ส.มัณฑนาฯ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดสิงห์บุรี

จากการสอบสวนจึงทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวเป็นบัญชีม้าที่กลุ่มคนร้ายใช้สำหรับรับและโอนจากผู้เสียหายไปยังผู้สั่งการ ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1-5 รับว่าได้เดินทางไปที่ประเทศกัมพูชาผ่านทางจังหวัดสระแก้วเพื่อสแกนหน้าและรับข้อความ OTP สำหรับโอนเงิน ซึ่งได้รับค่าจ้างวันละ 4,000-5,000 บาท จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะฯ, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับฯ, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงิน” ต่อไป