3 โจรบุกบ้านยามวิกาล ยกตู้เซฟมูลค่า 5 ล้าบบาท

View icon 22
วันที่ 30 มี.ค. 2567 | 05.25 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - กรรมตามทันจริง ๆ หวังจะเดินทางไปทำร้ายคนอื่น สุดท้ายขากลับต้องเข็นรถเก๋งเอง ขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้

ภาพขณะที่ชาย 3 คน ช่วยกันเข็นรถเก๋งไปตามทาง ในตำบลบ้านพริก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ดูทุ่มสุดแรงในการช่วยกันดันรถเก๋งไปข้างหน้า ซึ่งถ้าเป็นเราก็คงจะขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านระแวกนั้น แต่ 3 คนนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะเพิ่งจะไปปล้นทรัพย์เขามา จึงขอความช่วยเหลือไม่ได้ เดี๋ยวโป๊ะแตก

ผู้เสียหาย อายุ 53 ปี ให้การกับตำรวจว่า วันเกิดเหตุตนอยู่บ้านกับแม่ อายุ 80 ปี เพียงลำพัง จนกระทั่งกลางดึกได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้ามาบริเวณบ้าน ตามด้วยเสียงปืนหลายนัด จึงเดินออกไปดู พบชายชายฉกรรจ์ 3 คน สวมไอ้โม่งบุกเข้ามาในบ้านและจับตนมัดมือปิดปาก แต่ตนขัดขืนจึงถูกคนร้ายใช้ด้ามปืนตีศีรษะจนแตก ขณะที่แม่ไหวตัวทัน จึงรีบวิ่งหนีเข้าห้องล็อกประตู จากนั้นคนร้ายก็เข้าไปในห้องนอนของน้องชายกับน้องสะใภ้ ก่อนจะช่วยกันยกตู้เซฟขึ้นรถเก๋ง แล้วหนีไปทันที ซึ่งระหว่างที่คนร้ายกำลังหนี รถดันเสียกลางทาง จะไปขอความช่วยเหลือคงลำบาก

หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เขาสมิง สกัดจับได้บริเวณสามแยกโพธิกิจ ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด จากการค้นรถยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการหนี พบของกลางเป็นทองรูปพรรณหนัก 70 บาท พระเครื่องเลี่ยมทองและไม่เลี่ยมทอง รวม 10 ชิ้น แหวนเพชร 3 วง เงินสดจำนวน 98,000 บาท

ไม่เพียงเท่านี้ เพราะเมื่อตรวจสอบรถอย่างละเอียด พบว่ายังมีเงินสดซ่อนอยู่ที่กระโปรงท้ายรถยนต์อีกจำนวน 700,000 บาท รวมเงินสดที่พบทั้งหมดจำนวน 798,000 บาท

อีกทั้งภายในรถยังพบเครื่องมือช่าง เป็นเครื่องเจียร์ 1 เครื่อง สว่านไร้สาย 1 เครื่อง ไฟฉาย 1 กระบอก มีดยาว 1 เล่ม มีดสั้น 1 เล่ม ขวาน 1 ด้าม และไขควง 3 ด้าม ตำรวจจึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว

ส่วนคนร้ายเป็นชายอายุ 43 ปี และเป็นสมาชิก อบต.ดงละคร จังหวัดนครนายก ให้การว่า ตนมีความสัมพันธ์แบบลับ ๆ กับผู้เสียหาย ก่อนเกิดเหตุปล้นทรัพย์ ตนมีปากเสียงกัน จึงจ้างวานให้คนรู้จักคนหนึ่งเข้าไปปล้นทรัพย์ โดยที่ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายพาคนไปร่วมขบวนการกี่คน และในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อมาว่ารถเก๋งเสีย ตนจึงขับรถยนต์ไปรับคนร้ายทั้ง 3 คน แล้วพาหลบหนี โดยแวะส่งกลุ่มผู้ก่อเหตุ พร้อมทิ้งตู้เซฟและอาวุธปืนระหว่างทาง จากนั้นตนก็เดินทางเข้าจังหวัดตราด แล้วมาถูกจับกุมได้ในที่สุด และยังบอกอีกว่าตั้งใจจะนำของทั้งหมดไปคืนอยู่แล้ว ไม่คิดจะนำไปใช้แต่อย่างใด เพราะตนเองยังรักผู้เสียหายอยู่ หลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวไปสอบปากคำขยายผล ก่อนส่งตัวให้ตำรวจ พื้นที่จังหวัดนครนายก พร้อมติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่ยังหลบหนีอีก 3 คนต่อไป