“พี่จะเป็นฝ่ายไปเอง” หนุ่มช่างทองไลน์บอกเมีย ก่อนพบเป็นศพในรถ
ค่ำวานนี้ (31มี.ค.67) ร้อยตำรวจเอก เดชอุดม อ่อนยิ่ง รอง สว.สอบสวน สน.เทียนทะเล รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสาเหตุจากการรมควัน จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อม แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณลานดินหลังวัดหัวกระบือ เลขที่ 77 ซอย เทียนทะเล 19 ถนนบางขุนเทียนชายทะเล กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มาสด้า2 สีเขียว ทะเบียน 1กฎ 7066 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่บริเวณใต้ต้นมะขามเทศ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน ในสภาพนอนตะแคงซ้ายอยู่ตรงบริเวณเบาะด้านหลังรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งลักษณะ การแต่งกายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา กางเกงยีนส์ขายาวสามส่วน ไม่สวมรองเท้า
ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อนายณรงค์ อายุ 35 ปี มีอาชีพทำงานเป็นช่างทอง บริเวณด้านล่างของเบาะพบขวดเบียร์ ที่ดื่มหมดแล้ว 1 ขวดตกอยู่บนพื้นพร้อมกระดาษทิชชู่ 1 ม้วน และถัดมายังพบกับรองเท้าแตะสีดำ 1 คู่ ส่วนบริเวณด้านหน้ารถด้านซ้ายพบเตาถ่าน 1 ใบวางเอาไว้ที่พื้นของรถยนต์คันดังกล่าวและมีเศษถ่านที่จุดเอาไว้แล้วจนมอดไหม้เป็นขี้เถ้าไปแล้วเป็นบางส่วน และยังพบว่าภายในรถยนต์คันดังกล่าวเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้อีกด้วย แต่ทว่าประตูรถยนต์ทั้งสี่บานไม่ได้ล๊อกเอาไว้
และจากการสอบถาม นายสุระสิทธิ์ อายุ 47 ปี บ้านอยู่หลังวัด เป็นคนเจอศพคนแรก เล่าว่า เห็นมาจอดรถตรงนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พอมาวันนี้ก็ยังเห็นจอดอยู่ ซึ่งปกติจะไม่มีรถมาจอด พอเดินมาดูเห็นสตาร์ทรถไว้แต่มองไม่เห็นคนอยู่ข้างใน จึงเดินกลับไปตามเพื่อนอีก 2 คนมาดูด้วยกัน เมื่อส่องไปดูข้างใน เห็นมีคนนอนอยู่เบาะหลัง ก็เปิดประตูดูว่าเขาเป็นอะไร พอเห็นเตาก็รีบโทรแจ้ง 191 และ แจ้งพระให้ทราบเรื่องไว้
ส่วนทางด้าน นางสาวนุช อายุ 35 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า อยู่กินกันมานานแล้ว ประมาณ 16 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่ส่งไปอยู่ต่างจังหวัด มีเรื่องทะเลาะกันจนตนเองเป็นฝ่ายบอกเลิก แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกันแบบต่างคนต่างอยู่ เมื่อวานกลับเข้าบ้านไปตอนบ่ายโมง เขาก็ยังอยู่ แต่ตนเองนอนหลับ เพราะต้องออกไปทำงานตอน 4 ทุ่ม ก่อนออกไปทำงานยังเห็นเขานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ พอตี 3 เขาส่งไลน์มาหามาบอกว่า “พี่จะเป็นฝ่ายไปเอง” ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอกลับมาบ้านก็ไม่เจอแล้ว ไม่รู้ว่าออกไปไหน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ก่อนที่จะให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
