ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พนักงานสอบสวน ยื่นขอศาลอาญาออกหมายจับ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. หลังออกหมายเรียก 3 ครั้ง แต่ บิ๊กโจ๊ก ไม่ไปพบพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกระบวนการพิจารณาของศาลอาญา อยู่ว่าจะออกหมายจับ บิ๊กโจ๊ก ตามที่พนักงานสอบสวนขอหรือไม่
พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำร้องขอออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. ในความผิดฐาน สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามที่สมคบกัน ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
คดีนี้เป็นการสืบสวนสอบสวน เส้นทางการเงินในคดีที่ สน.เตาปูน เคยขออนุมัติหมายจับคดีเว็บ BNK Master ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาบางคน รวมถึง นางสาวพิมพ์วิไล ผู้จัดการเว็บ ได้เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2566 พร้อมกับตอนนั้นออกหมายจับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องคนสนิทกับบิ๊กโจ๊ก ที่มีหลักฐานรับเงินจากเว็บพนันดังกล่าว
ต่อมา พนักงานสอบสวน ยื่นขอศาลอาญาออกหมายจับอีก 5 ราย เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย และพลเรือน 1 ราย ตอนนั้นถ้าจำกันได้อีก 1 ราย ที่ศาลไม่ออกหมายจับให้ คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แต่ให้พนักงานสอบสวนไปออกหมายเรียกก่อน เนื่องจากเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ต่อมา พนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถส่งหมายเรียกถึง รอง ผบ.ตร. ได้ ในวันนี้จึงเดินทางมาขอออกหมายจับในช่วงเช้า ซึ่งมีรายงานว่า ภายหลังมีการยื่นขอออกหมายจับในช่วงเช้า ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เรื่องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม หากมีการยื่นคำร้องขอออกหมายจับ
โดยชี้แจงสรุปความว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ มีการทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษช่วยรับคดี BNK master ของ สน.เตาปูน เป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ ด้วยสรุปได้ว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคณะทำงาน จากพนักงานสอบสวน ซึ่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้รับคำชี้เเจงไว้พิจารณา และมีรายงานว่า ศาลอาญา ได้ออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก เรียบร้อยแล้ว ฐานความผิด สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามที่สมคบกัน