บึงกาฬ จับแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ชุดจับเจอนายใหญ่ต่อสายโทรเคลียร์

บึงกาฬ จับแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ชุดจับเจอนายใหญ่ต่อสายโทรเคลียร์

View icon 622
วันที่ 3 เม.ย. 2567 | 07.39 น.
ข่าวออนไลน์
แชร์
ตำรวจ สภ.พรเจริญ ตามรวบแก๊งปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแส อึ้ง เจอชายอ้างตัวเป็นผู้บังคับบัญชาต่อสายเคลียร์คดี

บึงกาฬ วานนี้(2 เม.ย.2567) เวลา 15.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด และมาทวงหนี้หรือเรียกเก็บเงินในพื้นที่อำเภอพรเจริญ และจอดรถอยู่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่บ้านโนน หมู่ 3 ต.ศรีชมภู อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ จึงขอให้ตำรวจไปตรวจสอบ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานกับตำรวจ ตม.บึงกาฬ และตำรวจทางหลวงบึงกาฬ ออกไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีขาวจอดอยู่บริเวณดังกล่าว พบชาย 3 คนประกอบด้วย มีนายณัฐพงษ์ อายุ 28 ปี ชาว ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี, นายวิธวัฒน์ อายุ 29 ปี ชาว ต.หนองทันน้ำ อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี และนายเทพจักร อายุ 30 ปี ชาว ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เมื่อทั้ง 3 คนเห็นเจ้าหน้าที่ มีอาการตกใจลุกลี้ลุกลนคล้ายคนกระทำผิดกฎหมาย จึงขอตรวจค้นทั้ง 3 คนไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และขอตรวจในรถกระบะสีขาวคันดังกล่าว พบของกลางหลายรายการประกอบด้วยนามบัตรชักชวน(เงินด่วนภายใน 1 วัน สำหรับท่านพ่อค้าแม่ค้า เซียนพนันและทุกสาขาอาชีพ ขอเพียงท่านเตรียมบัตรประชาชนของผู้กู้และผู้ค้ำ อนุมัติง่าย วงเงินตั้งแต่ 1,000-100,000 บาท นำโชค วันนี้ไม่มีค่า วันหน้าคุณอาจต้องการ) จำนวน 500 ฉบับ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส, เงินสดจำนวน 15,580 บาท และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง วางอยู่ในรถ ตำรวจสอบถามแล้ว ยอมรับว่ามาเก็บเงินกู้จริง จึงเชิญตัวทั้ง 3 มาสอบสวนที่ สภ.พรเจริญ

นายณัฐพงษ์ ยอมรับว่าตนเองและพวกได้ปล่อยเงินกู้จริง และปล่อยกู้มาประมาณ 6 ปี โดยนำเงินจากนายทุนมาปล่อยกู้ ครั้งละ 20,000 บาท ตนเองและพวก มีหน้าที่แจกใบปลิวหรือนามบัตรชักชวนให้กู้ยืมเงินให้กับประชาชน ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่นในพื้นที่จังหวัดสกลนคร นครพนม และบึงกาฬ โดยใช้ชื่อว่า สายเงินนำโชค ส่วนตัวเองกับพวก พักอาศัยอยู่ที่ อ.เมือง จ.สกลนคร การปล่อยให้กู้ยืม เช่น 1,000 บาท ลูกค้าหรือลูกหนี้ จะต้องชำระคืนเป็นเงินจำนวน 50 บาท/วัน จำนวน 24 วัน คิดเป็นเงินที่ต้องจ่ายคืน 1,200 บาท คิดดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 20 เมื่อเก็บเงินได้แล้วนายทุนจะมารับเงินสดที่บ้านพักทุกวันในตอนกลางคืน ซึ่งครั้งนี้ได้ปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอพรเจริญ เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท และเรียกเก็บคืนวันละ 300 บาท จำนวน 24 วัน เป็นเงินที่ต้องคืนทั้งสิ้น 7,200 บาท ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 20 และกำลังจะเดินทางไปเก็บเงิน แต่ถูกตำรวจตรวจค้นจับกุมเสียก่อน และนายณัฐพงษ์ ยอมรับอีกว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกันนี้เมื่อปี พ.ศ.2561 ที่ สภ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ขณะที่ชายทั้ง 3 ถูกจับกุมนั้น ยังได้อ้างนายใหญ่ว่าสามารถเคลียร์กับตำรวจได้ ซึ่งก็มีสายเรียกเข้ามาหาตำรวจชุดสืบสวน อ้างว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มปล่อยเงินกู้ทั้ง 3 คน ซึ่งก็ไม่เป็นผล ตำรวจชุดจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 คน ว่า “ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นทำบันทึกการจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.พรเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป