เงินกู้โหด กลุ่มโรงสีชัยนาทเปิดแอปฯ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยกว่า 2,000 % ต่อปี

เงินกู้โหด กลุ่มโรงสีชัยนาทเปิดแอปฯ ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยกว่า 2,000 % ต่อปี

View icon 577
วันที่ 4 เม.ย. 2567 | 17.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดีเอสไอ สนธิกำลังบุกค้นโรงสี-บ้านนายทุนชัยนาท เปิดแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด 2,000 % ต่อปี พบข้อมูลเงินหมุนเวียนนับพันล้านบาท
            
เงินกู้โหด วันนี้ (4 เมษายน 2567) พันตำรวจตรี ยุทธนา  แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจตรี วรณัน  ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ/โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นเป้าหมายตามหมายค้นของศาลจังหวัดชัยนาท เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่จังหวัดชัยนาท รวม 2 จุด กรณีแอปพลิเคชันเงินกู้ส่วนบุคคลออนไลน์ “กู้ใด้ดีๆ” หรือ “ได้บาทง่าย ๆ - สินเชื่อด่วน” ปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ และมีแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 80 แอปพลิเคชัน เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2,339.65 บาท/ปี และกำหนดให้ชำระหนี้ภายใน 7 วันเท่านั้น หากไม่ชำระเงินภายในกำหนด จะมีกลุ่มบุคคลโทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ ข่มขู่ คุกคามลูกหนี้และบุคคลที่ปรากฏรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ของผู้กู้ ก่อให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวพบว่าปัจจุบันมียอดการดาวน์โหลดมากกว่า 1,000,000 ครั้ง จนปรากฏข้อมูลน่าเชื่อว่านายชาญยุทธ (สงวนนามสกุล) และนางสาวกานติมา (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของแอปพลิเคชันดังกล่าว ใช้บัญชีเครือญาติและบัญชีม้าทำธุรกิจเงินกู้ออนไลน์ซึ่งมีเงินทุนหมุนเวียนหลักพันล้านบาท

จากการเข้าตรวจค้น บ้านพักของนายชาญยุทธ และนางสาวกานติมา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท และ โรงสีแห่งหนึ่ง อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของบุคคล ทั้งสอง และเคยปรากฏชื่อของนางสาวกานติมา เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น สามารถยึดสิ่งของเป็นพยานหลักฐาน จำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้เปิดใช้ จำนวน 150 ชิ้น โทรศัพท์มือถือจำนวน 20 เครื่อง กล่องโทรศัพท์ จำนวน 70 กล่อง สมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 120 เล่ม คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊กจำนวน 10 เครื่อง เอกสารและไฟล์ดิจิทัลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบ นอกจากนั้นยังตรวจพบว่ามีการเปิดตู้เซฟกับธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีหนังสืออายัดตู้เซฟดังกล่าวเพื่อจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป