“บิ๊กต่าย” สั่งเข้มงวด จับตาการเล่นน้ำสงกรานต์ในถนนข้าวสารและพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศรวมถึงใน 4 จังหวัดหัวเมือง ป้องกันไม่ให้เกิดความแออัด คาดโทษตำรวจตั้งด่านประพฤติตนไม่เหมาะสมต้องโดนลงโทษ หวังอุบัติเหตุน้อยลงกว่าในปีที่ผ่านมา
วันนี้ ( 5 เม.ย.67 ) พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค และหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางระบบ video conference พร้อมเปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลประชาชนทั่วประเทศไว้ 50,000 นาย และมีคำสั่งห้ามหยุดห้ามลาในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนได้เต็มที่
จะเน้นเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนตั้งแต่การเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่สถานีขนส่งต่างๆโดยจะตรวจสอบคนขับและผู้ให้บริการ ให้มีความพร้อมในการให้บริการด้วยความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และจะดูแลเรื่องการจราจรในเส้นทางสายเหนือสายอีสานและเส้นทางที่จะเดินทางลงใต้และพื้นที่ภาคอื่นๆ ซึ่งในส่วนนี้จะเน้นให้ตำรวจทางหลวงและตำรวจสภ. พื้นที่ดูแลในแต่ละจุด โดยจะเน้นเรื่องการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าคลี่คลายรถน้ำมันหมดรถเสียหรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในรายทางทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง
โดยในปีนี้จะเพิ่มการดูแลประชาชนในปั๊มน้ำมันตามเส้นทางหลักต่างๆซึ่งจะมีผู้เข้าไปใช้บริการจำนวนมากและอาจเกิดท้ายแถวสะสมออกมาด้านนอก ซึ่งในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีการใช้รถไฟฟ้าหรือรถ EV ในการเดินทางช่วงสงกรานต์มากขึ้น เพิ่งจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาหารือหาแนวทางแก้ไขหากรถของประชาชนแบตเตอรี่หมดหรือใกล้หมดเพื่อให้สามารถชาร์จไฟตามปั๊มและจุดให้บริการต่างๆได้มากที่สุด
ส่วนโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจปีนี้ยังคงมีโครงการดังกล่าวเช่นเดิมโดยจะเน้นการเข้าไปสแกน QR code ที่สถานีตำรวจพื้นที่หรือโทรแจ้งสายด่วน 191 เพื่อลงทะเบียนฝากบ้านโดยสามารถแจ้งวันเวลาเดินทางออกจากบ้านและเดินทางกลับเพื่อให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแล
สำหรับการเล่นน้ำสงกรานต์ในปีนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯจะจับตาการเล่นน้ำในพื้นที่ถนนข้าวสารและห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเป็นพิเศษ โดยจะดูแลไม่ให้เกิดความแออัดเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศหรือเทศกาลสงกรานต์ในปีที่แล้ว ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดจับตาพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ขอนแก่นภูเก็ตพัทยา อีกทั้งยังให้แต่ละพื้นที่หาข้อมูลกลุ่มขัดแย้งและกลุ่มที่มักก่อเหตุทะเลาะวิวาทในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด และเข้าไปกวาดล้างจับกุมคัดกรองแต่ละกลุ่มเพื่อเป็นการตัดไฟตัดต้นลม
นอกจากนี้ยังยืนยันว่าจะมีการตั้งด่านตรวจความปลอดภัยและการจราจรในทุกพื้นที่ แต่ด่านที่ตั้งต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ หากเจ้าหน้าที่ในด่านประพฤติตนไม่เหมาะสมเรียกรับผลประโยชน์หรือบริการไม่ดีจะต้องถูกคาดโทษหรือมีโทษทัณฑ์ โดยแต่ละด่านได้กำชับให้เข้มงวดดูแลตรวจสอบรถจักรยานยนต์และผู้ที่เมาแล้วขับเพื่อป้องกันไม่เกิดอุบัติเหตุในรายทาง
สำหรับในปีนี้ยอมรับว่าตนเองคาดหวังจะให้อุบัติเหตุน้อยลงกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้กดดันและจะวางมาตรการให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด
